อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ครั่ง เป็นแมลงจำพวกเพลี้ยชนิดหนึ่ง ครั่งจะขับถ่ายสารเหนียวสีเหลืองออกมา จะมีลักษณะเป็นยางหรือชัน และเมื่อถูกอากาศจะแข็งตัวกลายเป็นสีน้ำตาลหุ้มรอบกิ่งไม้ที่แมลงครั่งอาศัยอยู่ ครั่งที่เก็บได้จากต้นไม้เรียกว่า "ครั่งดิบ" มีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ เรซิน ขี้ผึ้ง สี ซาก ตัวครั่ง และสารอื่น ๆ เมื่อนำครั่งมาแปรรูปจะได้เป็นเชลแลค ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ อุตสาหกรรมยา โดยนำเชลแลคมาเคลือบยาเม็ดเพื่อป้องกันความชื้น และป้องกันตัวยาทำปฏิกริยากับกรดในกระเพาะอาหาร อุตสาหกรรมกระดาษ นำเชลแลคมาใช้เคลือบกระดาษเพื่อช่วยให้แข็งแรงสวยงาม ป้องกันการเปื้อนสกปรก และใช้เป็นตัวประสานในการผลิตกระดาษสำหรับภาชนะบรรจุอาหาร อุตสาหกรรมหมึกพิมพ์ นำเชลแลคมาใช้ในการทำหมึกเขียนชนิดกันน้ำ ปัจจุบันมีการผลิตหมึกพิมพ์ชนิดใหม่ที่แห้งเร็วสามารถกันน้ำได้และพิมพ์ด้วยเครื่องจักรที่มีความเร็วสูง จึงได้นำเชลแลคมาใช้เป็นส่วนผสมถึง 6 ส่วน อุตสาหกรรมเกี่ยวกับวัสดุที่เป็นฉนวนไฟฟ้า เนื่องจากเชลแลคไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า จึงมีการนำเอามาใช้ในอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่น หลอดไฟ วงจรไฟฟ้า และใช้ในการผลิตแผ่นไมก้า อุตสาหกรรมยาง ก็มีเชลแลคเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ใช้ทำรองเท้า วัสดุปูพื้น เบาะ อะไหล่รถยนต์ ตลอดจนอุตสาหกรรมอาหาร ก็มีการใช้เชลแลคเป็นสารเคลือบผิวผลไม้ ทำให้เหี่ยวช้าลง และใช้เป็นสารเคลือบลูกอมอีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจเลี้ยงครั่งสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านแมลงเศรษฐกิจ จังหวัดเชียงใหม่ โทร 052 - 001152 ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดขอนแก่น โทร 043-009958 สำนักงานเกษตรอำเภอ และสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน
ที่มา: กรมส่งเสริมการเกษตร