ยู ซิตี้ พลิกกลับมามีกำไรสุทธิในปี 2564

อังคาร ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๒ ๑๐:๓๔
บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) (ยู ซิตี้) พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 92 ล้านบาทในปี 2564 เทียบกับผลขาดทุนสุทธิ 6,614 ล้านบาทในปี 2563 ผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนี้เป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินงานอย่างทันท่วงที ตามทิศทางที่คณะกรรมการบริษัท และผู้ถือหุ้นได้อนุมัติเมื่อต้นปี 2564
ยู ซิตี้ พลิกกลับมามีกำไรสุทธิในปี 2564

ในช่วงที่ผ่านมา ยู ซิตี้ ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากบริษัทพึ่งพาธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก รายได้ของบริษัทลดลงกว่าร้อยละ 90 และโรงแรมเกือบทั้งหมดจาก 73 แห่งต้องปิดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากข้อจำกัดของรัฐบาล และการท่องเที่ยวที่หดตัวลง การฟื้นตัวของธุรกิจมีความไม่แน่นอน และไม่สามารถคาดการณ์ได้ เนื่องจากการเกิดขึ้นของโควิดสายพันธุ์ใหม่ตลอดเวลา และความไม่ชัดเจนของนโยบายภาครัฐ

แต่หลังจากที่ผู้ถือหุ้นตัดสินใจอนุมัติให้มีการขายธุรกิจโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์อื่น และมีการเพิ่มทุนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน ยู ซิตี้ ก็กลับพลิกฟื้นมามีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ยู ซิตี้ ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อจำหน่ายโรงแรมในทวีปยุโรปเพิ่มเติม จนถึงปัจจุบัน บริษัทได้ขายทรัพย์สินไปแล้วกว่า 6.3 พันล้านบาท และตั้งเป้าที่จะดำเนินการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เหลืออยู่อีกกว่า 26 พันล้านบาทให้หมดในอีก 3 ปีข้างหน้า

ควบคู่ไปกับการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ที่เหลือ บริษัทได้เริ่มขยายธุรกิจสู่บริการทางการเงินด้วยการเข้าซื้อหุ้น บริษัท แอดวานซ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ A LIFE รวมถึงเข้าซื้อหุ้นสามัญใน บริษัท ซิงเกอร์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER และบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ภายใต้กลยุทธ์ "3M" MOVE, MIX, MATCH ของกลุ่มบริษัทบีทีเอส เพื่อสนับสนุน และเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจ ต่อยอดธุรกิจทางการเงินเพื่อก้าวไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนต่อไป

นางสาวสรญา เสฐียรโกเศศ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน กล่าวว่า "การพลิกฟื้นธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยดี บริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้นตามแผน ซึ่งเราคาดหวังว่าจะได้เห็นธุรกรรมต่าง ๆ ที่จะช่วยเร่งขยายธุรกิจบริการทางการเงินของบริษัทให้เพิ่มขึ้นได้ภายในปีนี้"

ในปี 2564 ยู ซิตี้ มีรายได้รวม 6,572 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.3 จากปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากกำไรจากการลงทุนใน JMART ทั้งนี้ราคาหุ้นของ JMART และ SINGER มีการปรับตัวสูงขึ้นกว่าร้อยละ 64 และร้อยละ 32 ตามลำดับนับจากวันที่บริษัทตัดสินใจลงทุน ซึ่งสะท้อนถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มตามกลยุทธ์ MATCH ของกลุ่มบริษัทบีทีเอสซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

U-P ซึ่งเป็นหุ้นบุริมสิทธิของ ยู ซิตี้ ที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลก่อนหุ้นสามัญ มีราคาปิดที่ 0.16 บาทต่อหุ้น ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565

ที่มา: บีทีเอสกรุ๊ปฯ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๓๘ บางจากฯ ร่วมสร้างสีสัน ส่งต่อสุขภาพดี ชวน เมย์ รัชนก ร่วมแข่งกีฬา Econmass Sport Day 2024
๑๖:๐๐ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม เอิ้นหาพี่น้องโค้งสุดท้าย! ชวนมาม่วนซื่นส่งท้ายปี สูดอากาศดีกลางทุ่งดอกไม้บาน ชมงานศิลป์สุดอลัง พร้อมกิจกรรมม่วน ๆ ทั้งครอบครัว 2 สัปดาห์สุดท้าย
๑๕:๓๘ MediaTek เปิดตัว Dimensity 8400 ชิป All Big Core รุ่นแรกสำหรับสมาร์ทโฟนพรีเมียม
๑๕:๕๔ เปิด 10 เทรนด์ฮิตชีวิตดิจิทัลปี 2024 ปีแห่งความหลากหลายด้านป๊อปคัลเจอร์ โดย LINE ประเทศไทย
๑๕:๒๕ สุรพงษ์ ส่งมอบความสุข ขยายเวลาให้บริการสายสีแดง ถึง ตี 2 ในคืนเคานต์ดาวน์ เป็นของขวัญปีใหม่มอบให้แก่ประชาชน
๑๕:๐๗ เอ็นไอเอคัด 8 ผู้ประกอบการไทยสายการแพทย์ - สุขภาพ คว้าโอกาสบุกตลาดเยอรมนี - ยุโรป พร้อมโชว์จุดแข็งในงาน Medica 2024 ตอกย้ำไทย
๑๕:๒๖ EGCO Group คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2567 ระดับ AA ตอกย้ำความมั่นใจนักลงทุนต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
๑๕:๕๖ เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ แมกซ์ โซลูชัน ส่งมอบความสุขและความอุ่นใจ ต้อนรับเทศกาลปีใหม่แก่สมาชิก Max Card ผ่าน กรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่สุขกายสุขใจ
๑๕:๔๘ แอสตร้าเซนเนก้า ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) กับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อขับเคลื่อนการวิจัยทางคลินิกในไทย
๑๕:๓๒ ซีเอ็มเอ็มยู มุ่งผลิตบุคลากรชั้นนำผ่านนวัตกรรมการศึกษาและงานวิจัยระดับโลก พร้อมจุดประกายภาคเศรษฐกิจ - สังคม เปลี่ยนแหล่งเรียนรู้สู่ พาร์ทเนอร์การเรียนรู้