LPH ประกาศงบปี 64 ฟอร์มสวย บุ๊คกำไรโตกว่า 225% รายได้อยู่ที่ 2,528 ลบ. ตั้งธงรายได้ปี 65 โต 15-20% ทุ่มงบ 1,000 ลบ. สร้างโรงพยาบาลเฉพาะทาง

พุธ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๒ ๑๕:๕๖
LPH ประกาศผลงานปี 64 ฟอร์มสวย โกยกำไร 464.52 ลบ. เติบโต 225.10% รายได้อยู่ที่ 2,527.92 ลบ. โต 39.31% เทียบจากปีที่ผ่านมา บอร์ดชงจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก 0.10 บ./หุ้น "ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช" แม่ทัพใหญ่ กางแผนปี 65 ตั้งธงรายได้โต 15-20% เตรียมงบลงทุน 1,000 ล้านบาท สร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านตาและศัลยกรรม-อาคารจอดรถอัจฉริยะ พร้อมขยายโรงพยาบาลตรวจสุขภาพอีก 3 แห่ง 3 ภูมิภาค
LPH ประกาศงบปี 64 ฟอร์มสวย บุ๊คกำไรโตกว่า 225% รายได้อยู่ที่ 2,528 ลบ. ตั้งธงรายได้ปี 65 โต 15-20% ทุ่มงบ 1,000 ลบ. สร้างโรงพยาบาลเฉพาะทาง

ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยถึง ผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดปี 2564 (สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2564) มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวน 464.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 225.10% มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,527.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 39.31% โดยมีรายได้จากการรักษาพยาบาล 2,255.01 ล้านบาท เติบโตขึ้น 42.59% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้การรักษาพยาบาลสำหรับผู้ใช้บริการทั่วไปเติบโต 29.74% และจากโครงการประกันสังคม 54.57% ซึ่งมีปัจจัยบวกหลักจากผู้เข้ารับบริการทั้งผู้ป่วยปกติและผู้ป่วยที่มีอาการร่วมกับโรคโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ซึ่งบริษัทฯเล็งเห็นถึงความสำคัญของสถานการณ์ และได้ขยายศักยภาพการดูแลรักษาโรคโควิด-19 ให้ครบวงจร เพิ่มกำลังการให้บริการทั้งทางห้องปฏิบัติการที่ให้บริการตรวจคัดกรองโควิด-19 และยืนยันผลทั้งกรณีผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยโควิด และการรักษาพยาบาลตั้งแต่การร่วมบริหารศูนย์พักคอยสำหรับชุมชน การแยกผู้ป่วยเพื่อรักษาในหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ การรักษาผู้ป่วยติดเชื้อแสดงอาการรุนแรงระยะติดตามใกล้ชิด จนถึงในหอวิกฤต (Covid-ICUs) รวมถึงการบริการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง

นอกจากนี้ ในส่วนของรายได้งานตรวจสุขภาพ (Mobile Checkup) และพยาบาลปฏิบัติงานในโรงงานและหน่วยงานต่างๆ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา คิดเป็น 221.22% รวมทั้งการเติบโตต่อเนื่องของรายได้จากบริษัทย่อย AMARC เติบโต 11.86% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากการขยายขอบเขตการให้บริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการทั้งสินค้าเกษตร อาหารและยา กอปรกับกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้น แม้อยู่ในภาวะที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19

อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น และสะท้อนความเชื่อมั่นการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตรา 51.03% จากผลประกอบการกำไรสุทธิประจำปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 2 ครั้ง ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท คงเหลือการจ่ายเงินปันผลอีกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 วันที่จ่ายปันผล 20 พฤษภาคม 2565

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯได้อนุมัติลงทุนเพิ่มในบริษัท ศูนย์บริหารจัดการธุรกิจแห่งเอเซีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยใช้กระแสเงินสดของบริษัท วงเงินในการเพิ่มทุนไม่เกิน 50 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสถานพยาบาล ศูนย์สุขภาพ ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยการลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนออกใหม่จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมและให้คงสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท ศูนย์บริหารจัดการธุรกิจแห่งเอเซีย จำกัด ไว้เท่าเดิมและให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหารในการชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

สำหรับแผนธุรกิจปี 2565 นี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 15-20% เนื่องจากคาดว่าปริมาณผู้ป่วยจากต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าตะวันออกกลาง (อาหรับ) และประเทศกัมพูชาจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หลังจากบริษัทมีการทำข้อตกลงกับกลุ่มลูกค้าในเป้าหมายไว้แล้ว รวมถึงการดึงแพทย์เฉพาะทางจากโรงพยาบาลขนาดใหญ่เข้ามาร่วมให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับคาดว่าสถานการณ์แนวโน้มลูกค้ากลุ่มผู้ป่วยทั่วไปจะกลับเข้ารับบริการในภาวะปกติได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565

ขณะที่แผนการลงทุนในปี 2565 บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับก่อสร้างอาคารใหม่ 3 อาคาร โดยแบ่งเป็นอาคารจอดรถอัจฉริยะ 300 คัน มูลค่าราว 60 ล้านบาท ในเดือนมกราคม 2565 เตรียมลงฐานราก คาดว่าใช้เวลาก่อสร้าง 6 เดือน และก่อสร้างอีก 2 อาคาร พื้นที่อาคารรวมประมาณ 10,000 ตารางเมตร จำนวนเตียงเพิ่มขึ้น 50 เตียง เพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านตา และโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านศัลยกรรมและศูนย์โรคหัวใจ มูลค่าราว 400-500 ล้านบาทแต่ละอาคาร คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2566 และเปิดให้บริการปี 2567 การลงทุนโรงพยาบาลเฉพาะทาง ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการรักษาพยาบาลให้สูงขึ้น

นอกจากนี้ LPH ยังมีแผนลงทุนขยายโรงพยาบาลตรวจสุขภาพอีก 3 แห่ง ใช้เงินลงทุนแห่งละ 15-20 ล้านบาท โดยเล็งพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งกำลังศึกษาพื้นที่ในภาคเหนือ เช่น จังหวัดลำพูน ลำปาง แพร่ เชียงราย เป็นต้น ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะใช้โมเดลเดียวกับการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของโรงพยาบาลเอกชน ในจังหวัดอยุธยา คือ โรงพยาบาลเอเชีย ที่ LPH ถือหุ้นประมาณ 50% ส่วนที่เหลือก็ให้แพทย์ พนักงาน สถานประกอบการ โรงงาน คนท้องถิ่น ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการถือหุ้น ทั้งนี้ รายได้หลักของโรงพยาบาลฯ คือ ห้องพยาบาล บริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ ซึ่งตามกฎหมายโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องตรวจสุขภาพพนักงานทุกปี และต้องมีการตรวจด้านอาชีวอนามัย เป็นต้น
"การลงทุนดังกล่าวเพื่อขยายธุรกิจด้านการให้บริการตรวจวิเคราะห์และวิจัยพัฒนาด้านการแพทย์ ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้กับบริษัท และสถานพยาบาลต่างๆ รวมถึงการตรวจสุขภาพประจำปี และการตรวจอาชีวอนามัยให้กับกิจการและผู้ใช้บริการทั่วไป อันจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจด้านสุขภาพซึ่งเป็นธุรกิจที่สอดคล้องและสนับสนุนธุรกิจโรงพยาบาลของบริษัท" ดร.อังกูร กล่าว

ที่มา: ไออาร์ พลัส

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO