"ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค" หรือ PIN ประกาศสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายที่ดินในนิคมฯ - ลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคหนุน Recurring Income

จันทร์ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๒ ๑๑:๔๘
บมจ.ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค หรือ PIN ประกาศสร้างการเติบโตแบบยั่งยืน รับจังหวะเศรษฐกิจฟื้นตัว ตั้งเป้าขายที่ดินในนิคมฯ เพิ่มเป็น 350 ไร่ รุกพัฒนาสาธารณูปโภคด้านพลังงานทั้งโรงไฟฟ้าและท่อก๊าซ รับความต้องการใช้พลังงานแก่ลูกค้าผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในกลุ่ม ปตท. พร้อมเตรียมเปิดเช่าพื้นที่โลจิสติกส์ปาร์คแห่งใหม่ในครึ่งปีหลังปีนี้ หนุนเป้า 3 ปี ดันสัดส่วนรายได้ให้เช่าและบริการโรงงาน-คลังสินค้าและค่าบริการสาธารณูปโภค (Recurring Income) เพิ่มเป็น 50% ขณะที่ผลงานปี 2564 ทำรายได้ 591.4 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 144.0 ล้านบาท ด้านบอร์ดฯ เคาะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น ตอกย้ำ PIN เป็นหุ้น Dividend Stock
ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค หรือ PIN ประกาศสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายที่ดินในนิคมฯ - ลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคหนุน Recurring Income

นายพีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PIN เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน รองรับจังหวะการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัวในกรอบ 3.5-4.5% หลังภาครัฐมีนโยบายการเปิดประเทศ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของปิ่นทองกลับมาสู่ภาวะปกติเหมือนก่อนช่วงโควิด 19 โดยประเมินว่าปีนี้การขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองจะเพิ่มเป็น 350 ไร่ หรือขยายตัวเลข 70% ซึ่งมาจากการจำหน่ายที่ดินในโครงการนิคม PIN4, PIN5 และ PIN6 ช่วยผลักดันการเติบโตในปีนี้ได้ตามเป้า

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง จากโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภคด้านพลังงานจากโครงการโรงไฟฟ้าจำนวน 140 MW ในโครงการ PIN5 ที่อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และคาดว่าภายใน 3 ปีจะเริ่มดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีแผนศึกษาความร่วมมือพันธมิตรดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) โดยติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาอาคารโรงงานและคลังสินค้า และติดตั้งแผงโซลาร์บนแหล่งน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรม กำลังการผลิตรวม 140 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถสรุปรายละเอียดในโครงการนี้ได้ในเร็วๆ นี้

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PIN กล่าวว่า ส่วนโครงการโลจิสติกส์ พาร์ค แห่งใหม่ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาที่ดินและสร้างอาคารโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า โดยจัดสรรพื้นที่โครงการ ประกอบด้วยเขตปลอดอากร (Free Zone) และเขตทั่วไป (General Zone) พื้นที่อาคารรวมประมาณ 200,000 ตารางเมตร บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ บริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มพัฒนาเฟสแรกภายในไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งถือเป็นอีกโครงการไฮไลต์ในปีนี้ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและรากฐานที่มั่นคงแก่การดำเนินงานในระยะยาว และสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มธุรกิจจากกลุ่มให้เช่าและบริการที่เป็นรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 50% ของรายได้รวมภายใน 3 ปีข้างหน้า

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 591.4 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 144.0 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากการขายที่ดินชะลอลง จากปัจจัยลบจากสถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19 ที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในปี 2564 และกำไรสะสม ในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น เพื่อตอกย้ำ PIN เป็นหุ้น Dividend Stock ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ