ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายในประเทศเพิ่มขึ้น คิดเป็น 59.08% เทียบ YoY เป็นผลจากการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ โซเชียลมีเดีย และผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงตามเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ในส่วนของรายได้จากต่างประเทศนั้นมีรายได้จากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพิ่มขึ้น 65.63% เทียบ YoY จากการเติบโตของตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งผ่านร้านค้า ช่องทางออนไลน์ และทำการตลาดเพิ่มขึ้น
โดยบริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานโดยไม่รวมการวัดมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงินและรายได้อื่นอยู่ที่ 29.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 366.7 ล้านบาท หรือ 109% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากบริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยค่าใช้จ่ายการตลาดและค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายที่ตรงเป้าหมายกลุ่มลูกค้า ช่องทางจัดจำหน่าย และสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน และปรับแผนการตลาดให้เหมาะสมโดยมุ่งเน้นตลาดออนไลน์เป็นหลัก
"ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถรักษายอดขายให้เติบโตไว้ได้ จากการปรับกลยุทธ์ในการขายให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปในยุคปัจจุบัน โดยเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดียมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการขายผ่านช่องทางร้านค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ทำให้ไม่สามารถเปิดขายได้ตามปกติ ประกอบกับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่สนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปีนี้บริษัทฯ ยังคงเน้นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่และส่งเสริมการขายผ่านช่องออนไลน์มากยิ่งขึ้น เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าให้มีความหลากหลาย เพิ่มรายได้ของช่องทางการจัดจำหน่าย มุ่งสู่เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน" นางสาวนันทวรรณ กล่าว
นางสาวนันทวรรณ กล่าวต่อว่า ในปี 2565 บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากการพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตอบโจทย์กระแสรักสุขภาพที่ยังคงมาแรง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับกัญชง รวมถึงการขยายสินค้าแบรนด์ใหม่และการจับมือร่วมทุน หรือนำธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพนอกเหนือจากการเพิ่มยอดการรับจ้างผลิตสินค้าตามคำสั่ง (OEM) ให้กับแบรนด์อื่นๆ นอกเครือของบริษัทฯ รวมถึงการพัฒนาระบบการจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) และระบบขนส่ง (Logistics Management) ให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศนอกเหนือจากประเทศฟิลิปปินส์ที่ธุรกิจเติบโตได้เป็นอย่างดี บริษัทฯ ยังมีแผนงานที่จะขยายธุรกิจไปประเทศอื่นๆเพิ่มเติมในอนาคตอีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2564 ในอัตรา 0.35 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินรวม 111.26 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลในวันที่ 14 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2565
ที่มา: เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น