"หัวเว่ย" เดินหน้าพัฒนาเครือข่ายขับเคลื่อนอัตโนมัติ เพื่อความเป็นอิสระของเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์

พุธ ๐๒ มีนาคม ๒๐๒๒ ๑๑:๑๕
ในระหว่างมหกรรมโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2565 (Mobile World Congress 2022) หัวเว่ย (Huawei) ได้มอบหมายให้บริษัท ฟอร์เรสเตอร์ คอนซัลติง (Forrester Consulting) ทำการศึกษาและจัดทำรายงานเกี่ยวกับเครือข่ายขับเคลื่อนอัตโนมัติในชื่อ "การสร้างความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจดิจิทัลด้วยเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ" (Building Leading Digital Business Competitiveness with A Highly Autonomous Driven Data Center Network) โดยกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงดาต้าเซ็นเตอร์ระดับองค์กรไปสู่ดาต้าเซ็นเตอร์บนระบบคลาวด์ที่ทันสมัยในลักษณะของเครือข่าย "มัลติคลาวด์และไฮบริด" ในขณะที่เครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์กำลังเปลี่ยนจากระดับ 3 ไปสู่ระดับ 4 โดยรายงานฉบับนี้เรียกร้องให้มีการยกระดับระบบอัตโนมัติ พร้อมแนะนำวิธีการพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ระดับองค์กรให้ทำงานได้อย่างอิสระมากขึ้น
หัวเว่ย เดินหน้าพัฒนาเครือข่ายขับเคลื่อนอัตโนมัติ เพื่อความเป็นอิสระของเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์

ฟอร์เรสเตอร์ได้ทำการสำรวจผู้นำด้านไอทีและผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านเทคนิคจากองค์กรขนาดใหญ่และขนาดกลางรวม 197 แห่งทั่วโลก เกี่ยวกับสถานะในปัจจุบัน ความท้าทาย และเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กร

เทคโนโลยีและโมเดลธุรกิจใหม่ขับเคลื่อนเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์สู่ความเป็นอิสระในระดับสูง

รายงานระบุว่า 61.9% ขององค์กรที่ตอบแบบสำรวจกำลังสร้างดาต้าเซ็นเตอร์โดยใช้คลาวด์แบบส่วนตัวและแบบไฮบริด โดยดาต้าเซ็นเตอร์ที่อยู่บนคลาวด์ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถบริการตนเองแบบออนดีมานด์ เข้าใช้งานได้อย่างทั่วถึง รวบรวมทรัพยากรได้อย่างครอบคลุม มีความยืดหยุ่น ตลอดจนมีความสามารถในการบริการที่ได้มาตรฐานและวัดผลได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยเครือข่ายขับเคลื่อนอัตโนมัติ ในขณะเดียวกัน การแข่งขันในตลาดที่ดุเดือดมากขึ้นและรูปแบบธุรกิจที่รวดเร็วทำให้ความต่อเนื่องของบริการและประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์เป็นที่ต้องการอย่างมาก ความต้องการทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ยังต้องอาศัยความเป็นอิสระมากขึ้นในการวางเครือข่ายและการให้บริการอย่างรวดเร็ว รวมถึงการรับประกันความต่อเนื่องของบริการและป้องกันการหยุดชะงักของธุรกิจ

เครือข่ายที่ซับซ้อนมากขึ้นและเทคโนโลยีเครือข่ายที่ล้าสมัย คือความท้าทายที่สำคัญในการพัฒนาเครือข่ายขับเคลื่อนอัตโนมัติ

ภายหลังการประเมินตัวเอง องค์กรที่ตอบแบบสำรวจ 64% เชื่อว่าดาต้าเซ็นเตอร์ของตนอยู่ในระดับ 3 นั่นคือ เครือข่ายขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบมีเงื่อนไข แม้ว่าเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น คลาวด์คอมพิวติง ปัญญาประดิษฐ์ และเอสดีเอ็น จะช่วยให้เครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์สามารถยกระดับการปฏิบัติงานและการบำรุงรักษาอัจฉริยะโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม องค์กรต่าง ๆ ยังคงเผชิญกับความท้าทายมากมายในการใช้งานระบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนของการสร้าง รวมถึงการปฏิบัติงานและการบำรุงรักษาที่ยังคงต้องอาศัยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและทักษะของพนักงานเป็นอย่างมาก ซึ่งถือว่าไม่มีประสิทธิภาพและเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย

ในความเป็นจริงแล้ว องค์กรส่วนใหญ่ต่างพึ่งพาโซลูชันของบรรดาผู้จำหน่าย (ครอบคลุมแผนการ กระบวนการ และเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานระบบอัตโนมัติ) เพื่อให้เกิดการทำงานอัตโนมัติในระดับหนึ่งสำหรับเครือข่ายซิงเกิลคลาวด์และซิงเกิลดาต้าเซ็นเตอร์ แต่เนื่องจากดาต้าเซ็นเตอร์ระดับองค์กรมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เครือข่ายมัลติคลาวด์ เครือข่ายมัลติดาต้าเซ็นเตอร์ และเครือข่ายลูกผสมจึงกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ ซึ่งทำให้เครือข่ายมีความซับซ้อนขึ้นมาก ด้วยเหตุนี้ โซลูชัน เครื่องมือ และทักษะที่มีอยู่จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้

ดาต้าเซ็นเตอร์ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นภายในครั้งเดียว องค์กรที่ตอบแบบสำรวจ 50.8% ระบุว่ายังคงใช้เครือข่ายและอุปกรณ์เก่าจำนวนมากในขณะที่ขยายและสร้างโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ อย่างไรก็ตาม สถาปัตยกรรมเครือข่ายเดิมไม่มีความยืดหยุ่นและพัฒนาได้ช้า ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เครือข่ายรุ่นเก่าทำงานอัตโนมัติ สิ่งนี้ส่งสัญญาณปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นคือ การหาทางฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่ล้าสมัยเพื่อปกป้องการลงทุนในอดีตที่ผ่านมา

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและความร่วมมือช่วยเร่งการพัฒนา

ฟอร์เรสเตอร์แนะนำว่า องค์กรต่าง ๆ ต้องกำหนดเป้าหมายและแนวทางที่ชัดเจนในการพัฒนาเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทำงานอัตโนมัติ โดยอ้างอิงสถานะและกลยุทธ์ในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังสามารถเรียนรู้จากแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม โดยเครือข่ายอัตโนมัติต้องอาศัยเทคโนโลยีทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เครือข่าย สถาปัตยกรรมคลาวด์แบบไฮบริด หรือระบบอัตโนมัติ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับองค์กรที่จะบรรลุผลสำเร็จได้ด้วยตนเอง วิธีการแก้ปัญหาคือการดึงจุดแข็งของพันธมิตรเพื่อเร่งให้เกิดการทำงานอัตโนมัติและนำหน้าคู่แข่งอยู่เสมอ

หัวเว่ย คลาวด์แฟบริก 3.0 เครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 3.5

เมื่อไม่นานมานี้ โทลลี กรุ๊ป (Tolly Group) ผู้ให้บริการทดสอบและตรวจสอบรับรองบุคคลที่สามชั้นนำระดับโลก ได้ทำการเปรียบเทียบโซลูชันเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์แบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ หัวเว่ย คลาวด์แฟบริก 3.0 (Huawei CloudFabric 3.0 Hyper-Converged Data Center Network Solution) กับโซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์เอสดีเอ็น (SDN) ที่ใช้งานเป็นหลักในปัจจุบัน โดยโซลูชันของหัวเว่ยทำคะแนนได้ 3.51 ซึ่งสูงกว่าโซลูชันเอสดีเอ็นที่ได้คะแนน 2.8 นอกจากนั้นยังเป็นโซลูชันเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 3.5 เพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับการรับรองโดยโทลลี กรุ๊ป

หัวเว่ย คลาวด์แฟบริก 3.0 ซึ่งเป็นโซลูชันเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์แบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ มอบการทำงานอัตโนมัติตลอดวงจรชีวิต รวมถึงความสามารถด้านการปฏิบัติงานและการบำรุงรักษาแบบอัจฉริยะสำหรับเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยมากมาย เช่น กรอบการตั้งโปรแกรมแบบเปิด แพลตฟอร์มประสานบริการ ดิจิทัลทวิน และกราฟความรู้ ซึ่งทำให้หัวเว่ย คลาวด์แฟบริก 3.0 สามารถจัดการเครือข่ายมัลติดาต้าเซ็นเตอร์ เครือข่ายมัลติคลาวด์ และเครือข่ายลูกผสมจากส่วนกลาง จัดเตรียมบริการภายในไม่กี่วินาที ดำเนินการจำลองและยืนยัน ตลอดจนระบุตำแหน่งข้อบกพร่องระหว่างแอปพลิเคชันและเครือข่าย โซลูชันนี้ช่วยอำนวยความสะดวกในการพัฒนานวัตกรรมการบริการที่คล่องตัว และนำไปสู่การให้บริการแบบเรียลไทม์ ทั้งนี้ หัวเว่ย คลาวด์แฟบริก 3.0 ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การเงิน รัฐบาล องค์กรขนาดใหญ่ และผู้ให้บริการโทรคมนาคม เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กรต่าง ๆ และช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จทางธุรกิจ

มหกรรมโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2565 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยหัวเว่ยได้ร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันต่าง ๆ ที่บูธ 1H50 ในฟีรา กรัน เวีย ฮอลล์ 1 (Fira Gran Via Hall 1) ทั้งนี้ ด้วยการร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่าย ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิดจากทั่วโลก เราได้เจาะลึกประเด็นต่าง ๆ เช่น แนวโน้มของอุตสาหกรรม แบบจำลอง GUIDE เพื่อนำทางสู่อนาคต และการพัฒนาสีเขียว เพื่อวาดภาพเครือข่ายดิจิทัลแห่งอนาคต สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://e.huawei.com/en/events/huawei-enterprise-mwc-2022

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1756797/Autonomous_driving_network_thought_leadership_paper_release.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1756798/image_986294_26377390.jpg



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
หัวเว่ย เดินหน้าพัฒนาเครือข่ายขับเคลื่อนอัตโนมัติ เพื่อความเป็นอิสระของเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version