นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR ผู้ประกอบธุรกิจซ่อมเรือและต่อเรือ รวมถึงกิจการก่อสร้างงานด้านวิศวกรรมอื่น ๆ เช่น งานโครงสร้างเหล็ก เป็นต้น เปิดเผยถึง ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35 ล้านบาท โต 7% จากปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากงานซ่อมเรือ 371 ล้านบาท และรายได้จากงานต่อเรือและจัดหาเรือ 136 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 21 ล้านบาท ลดลง 9 ล้านบาท จากผลกระทบสถานการณ์ COVID ช่วงไตรมาส 3/64 ลูกค้าเลื่อนเข้าซ่อมและขาดกำลังพล โดยที่กลับมารับงานได้ตามปกติในช่วงปลายปี
"แม้ในปีที่ผ่านมา เอเชียน มารีนฯ ยังเจอความท้าทายในหลายปัจจัย แต่ด้วยกลยุทธ์ และแผนธุรกิจที่วางไว้อย่างรัดกุม ส่งผลให้ผลงานปี 64 ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย แต่อาจจะมีสะดุดในช่วงไตรมาส 3/64 เหตุจากสถานการณ์โควิดที่รุนแรงในโซนพื้นที่จ.สมุทรปราการ ทำให้ลูกค้าที่จะนำเรือมาซ่อมต้องชะลอดูสถานการณ์ เนื่องจาก ลูกค้าส่วนใหญ่คือกลุ่มเรือบรรทุกสินค้า ถ้ามีลูกเรือติดโควิดแม้แต่คนเดียว ต้องถูกกักตัวทั้งลำ ไม่สามารถส่งสินค้าได้ แต่ในช่วงไตรมาส 4/64 สถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จากเดิมที่ลูกค้ามีการชะลอการซ่อมเรือ และงานต่อเรือ ก็กลับมาส่งงานให้ตามปกติ ทำให้ผลงานยังคงเป็นไปตามเป้า และสามารถส่งมอบงานให้ลูกค้าได้ตามกำหนด" นายสุรเดชกล่าว
อีกหนึ่งความท้าทายของบริษัทคือ เรื่องการขาดแคลนแรงงาน เนื่องด้วยมาตรการภาครัฐที่ไม่สามารถนำแรงงานเข้ามาทำงานในประเทศได้ จึงปรับแผนรับแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศมาทดแทนก่อน แต่ในปัจจุบันกระทรวงแรงงาน เปิดให้นำเข้าแรงงานต่างชาติเข้ามาในประเทศได้แล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 16 ก.พ. 65) ทางบริษัทจึงเร่งหาแรงงานเพิ่มเติม เพื่อรองรับงานในอนาคต และคาดสถานการณ์จะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป
สำหรับปี 65 บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโต 10 % จากปีก่อน จากปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ราว 245 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ทั้งหมด และการเดินหน้าประมูลงานใหม่ทั้งจากภาครัฐและเอกชน
"แผนธุรกิจของ ASIMAR ในปีเสือทอง และปีนี้ครบรอบ 40 ปีของการก่อตั้งบริษัท ทีมบริหารยังคงมุ่งมั่นสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจ โดยแผนปี 65 นี้ ยังคงเดินหน้าเร่งประมูลงานใหม่ และในช่วงไตรมาส 1/65 นี้ ได้ยื่นประมูลงานกับทางภาครัฐ โดยเป็นงานต่อเรือ คาดทยอยประกาศผลงานภายในไตรมาส 2/65 นี้ ส่วนงานเอกชน อยู่ระหว่างการเจรจาเพิ่มเติม เป็นกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว คาดทราบผลชัดเจนภายในไตรมาส 2-3/65 และมองว่าโอกาสอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ เป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานของธุรกิจการขนส่งทางน้ำ ซึ่งมีแนวโน้มความต้องการต่อเนื่องไม่มีหยุด" นายสุรเดชกล่าว
ทั้งนี้เพื่อสะท้อนความเชื่อมั่นและตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นเงินรวม 25.83 ล้านบาท ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับมติของการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในวันที่ 8 เมษายน 2565 โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 14 มีนาคม 2565 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 พฤษภาคม 2565
ที่มา: ไออาร์ พลัส