ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ "IMH" เปิดเผยว่า ทาง "IMH" ยังคงเดินหน้าสู้ศึก "โคมิครอน"อย่างต่อเนื่อง ทั้งการตรวจเชื้อโควิด (ATK, PCR) และการรักษาคนไข้โควิดแบบครบวงจร (One stop service) โดยล่าสุด "IMH" ได้เจรจากับ supplier เพื่อนำเข้าชุดตรวจโควิดรุ่นใหม่ "Flowflex" ATK 2-in-1 ซึ่งสามารถใช้ตรวจได้ทั้งทาง "โพรงจมูก และ น้ำลาย" มีความไว (Sensitivity) ในการตรวจพบเชื้อ "โอมิครอน" และสามารถตรวจพบเชื้อได้ แม้เชื้อมีความเข้มข้นต่ำ ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ที่จะช่วยผู้ใช้งานตรวจพบเชื้อ "โอมิครอน" ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
" Flowflex ATK 2-in-1 รุ่นใหม่นี้ ที่สามารถใช้ตรวจได้ทั้งทาง "โพรงจมูก และ น้ำลาย" จะสามารถเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่มีความจำเป็นต้องตรวจ ATK บ่อยๆ ซึ่งตัวเครื่องมือเองถูกออกแบบใหม่ ให้มีอุปกรณ์เก็บเชื้อโควิดได้ทั้งทาง "โพรงจมูก และ น้ำลาย" ซึ่งการเก็บเชื้อทางน้ำลายนั้น จะช่วยลดความเจ็บระบมและระคายเคือง จากการตรวจหาเชื้อทางโพรงจมูกได้บ่อยๆ และเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการพกพาและสามารถใช้งานในสภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน ตามความต้องการของผู้ใช้งานขณะไปพื้นที่เสี่ยงได้"
ดร. สิทธิวัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยรวมแล้ว กลุ่ม "IMH" คาดว่า Flowflex ATK 2-in-1 รุ่นใหม่ จะช่วยสร้างช่องทางรายได้จากยอดขายชุดตรวจดังกล่าวเข้ามาเพิ่มไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท จึงส่งผลให้บริษัทฯยิ่งตอกย้ำความมั่นใจว่าภายในปี2565 กลุ่ม"IMH" จะมีโอกาสสร้างอัตราการเติบโตของรายได้รวมกว่า 1,200 ล้านบาท พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่าจะสามารถบริหารต้นทุนรวมให้ต่ำลง เมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากประสบการณ์ในการบริหารโรงพยาบาลที่เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเติบโตของกลุ่ม"IMH" ยังไม่รวมดีล โครงการก่อสร้าง "โรงพยาบาล IMH แบริ่ง" ขนาด 600 เตียง อยู่บนพื้นที่ดินทำเลทอง 12 ไร่ ติดสถานีรถไฟฟ้าBTS แบริ่ง ซึ่งเป็นโครงการฯที่จะระดมทุน จาก IPO ของโรงพยาบาล ประชาพัฒน์ โดยรพ.ดังกล่าวคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 1/2568 โดยจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้ากลาง-สูง โซนกรุงเทพใต้ และ จังหวัดสมุทรปราการ
ทางด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่า ที่ผ่านมากลุ่ม "IMH" ได้รับอานิสงส์ จากการตรวจและรักษาโควิด รวมถึงผลจากการควบรวมกิจการ (M&A) และมีมุมมองเป็นบวกต่อ ดีลโครงการก่อสร้าง "โรงพยาบาล IMH แบริ่ง" 600 เตียง ที่จะอัพเกรดให้ IMH เป็น โรงพยายาลขนาดใหญ่และขยาย ฐานรายได้ให้บริษัท โดยมูลค่าพื้นฐานปี 2565 ยังไม่รวมมูลค่า "โรงพยาบาล IMH แบริ่ง" อยู่ที่ 28.00 บาท/หุ้น ขณะเดียวกัน ทั้งนี้ หากรวมมูลค่าโครงการ "โรงพยาบาล IMH แบริ่ง" แล้ว คาดว่าฐานรายได้ของกลุ่ม IMH จะปรับเพิ่มขึ้นในปี2568 ราว 2,200 ล้านบาท ขณะที่ไปเทียบกับหุ้นรพ. ขนาดใหญ่อื่นๆ เทรด P/E ปี 65 เฉลี่ยที่ 24.5x แต่หากประมาณแบบอนุรักษ์นิยม โดยอิง P/E ที่ 20x ราคาเหมาสมของ IMH ควรปรับขึ้นเป็น 42.70 บาท/หุ้น
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์