บาวน์ตี้ มีเดียก่อตั้งโดยแคลส โลเบิร์ก (Claes Loberg) และเจค เดนนี (Jake Denney) ในสิงคโปร์เมื่อปลายปี 2562 และได้เริ่มบทบาทในอินโดนีเซียในปี 2564 ด้วยการให้บริการที่มาพร้อมกับวิสัยทัศน์ในการสนับสนุนผู้บริโภค สัปดาห์นี้ทั้งสองได้เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเปิดตลาดแห่งที่สอง และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้คว้ารางวัลชนะเลิศในการแข่งขันเพื่อค้นหานวัตกรรมในโครงการวีโกรว์ (vGrow) ของพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล หลังจากที่เพิ่งปิดการระดมทุนรอบ Pre-A มูลค่า 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (โดยมีการประเมินมูลค่าธุรกิจอยู่ที่ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ไปเมื่อไม่นานมานี้ นำโดยบริษัทเอสโอเอสวี (SOSV) และเข้าร่วมโดยนักลงทุนต่าง ๆ อย่างเช่น บริษัทแบล็ค ไคท์ อินเวสต์เมนท์ (Black Kite Investments) จากสิงคโปร์ บริษัทไฮ คอสมอส (High Cosmos) จากไต้หวัน บริษัทโควโนตา อินเวสต์เมนท์ (Quonota Investment) จากไซปรัส และนักลงทุนอิสระในสิงคโปร์อีกหลายราย
"เราสร้างการแลกเปลี่ยนมูลค่าที่โปร่งใสระหว่างผู้บริโภคกับผู้โฆษณา" คุณโลเบิร์ก กล่าว ในยุคปัจจุบันที่คุกกี้แบบบุคคลที่สามกำลังหายไปและมีกฎหมายด้านความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น "ผู้บริโภคต้องแสดงความยินยอมว่าใครได้รับอนุญาตให้เห็นข้อมูลของพวกเขา และทำอะไรกับข้อมูลของพวกเขาได้บ้าง เราได้สร้างโอกาสที่ต่างฝ่ายต่างได้แบบวิน-วิน-วินสำหรับผู้โฆษณา ผู้เผยแพร่โฆษณา และผู้บริโภค ทั้งนี้เพื่อช่วยส่งเสริมกระบวนการดังกล่าวให้เป็นไปได้อย่างราบรื่น"
"พีแอนด์จีประเทศไทยต้องการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นการสนับสนุนและสร้างโอกาสให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีวิสัยทัศน์และความทะเยอทะยานในการพัฒนาธุรกิจของตนให้เติบโตต่อไปในอนาคต" นายนิธิน ดาบาริ (Nithin Dabari) กรรมการผู้จัดการบริษัทพีแอนด์จี ประเทศไทย กล่าว "ด้วยเหตุนี้เราจึงดำเนินโครงการวีโกรว์ในประเทศไทย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มให้ธุรกิจสตาร์ทอัพในไทยได้เข้าร่วมและนำเสนอไอเดียธุรกิจ และมาร่วมกันหาแนวทางพัฒนาธุรกิจกับพีแอนด์จี ประเทศไทย ในปี 2565 นี้ซึ่งเป็นปีแรกของโครงการวีโกรว์ เราให้ความสำคัญกับธุรกิจเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง"
พันธมิตรของบาวน์ตี้ มีเดีย ประกอบด้วยบริษัทในอุตสาหกรรมข่าว โทรคมนาคม เกม และบริการสื่อสารและแพร่ภาพและเสียงผ่านอินเทอร์เน็ต (OTT) อย่างเช่น วิว (Viu) วิดีโอ (Vidio) และยูซีทีวี (UseeTV) ในอินโดนีเซีย เพื่อให้บริการผู้ใช้ที่มีการใช้งานจริงรายเดือนจำนวน 92 ล้านราย การเปิดตัวบาวน์ตี้ในประเทศไทยสัปดาห์นี้แสดงถึงการเริ่มต้นของบริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในที่อื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจะมีการเปิดตัวหลังจากนี้ตลอดปี 2565 และ 2566 เพื่อเป็นการขยายคู่ค้าด้านคอนเทนต์โดยมียอดเป้าหมายคือผู้ใช้จำนวน 1 พันล้านรายภายในปี 2566
ท่ามกลางความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล กูเกิล (Google) ได้ประกาศว่าบริษัทจะยุติการมุ่งเป้าเชิงพฤติกรรมและการสร้างโปรไฟล์ในผลิตภัณฑ์โฆษณาของบริษัท เช่นเดียวกับแอปเปิ้ล (Apple) และมอซิลลา (Mozilla) ก่อนหน้านี้ ซึ่งได้ทยอยยุติการใช้คุกกี้แบบบุคคลที่สาม นำไปสู่โอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีโฆษณาซึ่งมีรากฐานเป็นความไว้วางใจและความโปร่งใส
ข้อมูลแบบบุคคลที่ศูนย์ต่างจากข้อมูลแบบบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สาม โดยเป็นข้อมูลในบริบทส่วนบุคคลที่ต้องมีความยินยอมพร้อมใจด้วยการแสดงเจตนาของลูกค้าในการแบ่งปันให้กับแบรนด์ที่พวกเขาไว้วางใจ การวิจัยของฟอร์เรสเตอร์ (Forrester) ประเมินว่า 15% ของแบรนด์จะเก็บข้อมูลบุคคลที่ศูนย์ในช่วงหลายปีข้างหน้านี้ ในปัจจุบันภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดโฆษณาขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลกซึ่งมีการใช้จ่ายเป็นมูลค่า 101,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 และคาดว่าจะเติบโตแตะหลัก 193,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2564
"เราอยู่ที่จุดกึ่งกลางของวิวัฒนาการด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ขณะนี้แบรนด์และผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถึงขอบเขตทั้งหมดของวิวัฒนาการดังกล่าว ทีมงานที่บาวน์ตี้ มีเดีย มีการมองการณ์ไกลในการสร้างโซลูชันที่มีความโปร่งใส ซึ่งสนับสนุนทั้งผู้บริโภคและแบรนด์ที่พวกเขาไว้วางใจ เราเห็นว่าพวกเขาเป็นทีมที่เหมาะสมที่สุดที่จะดำเนินการตามพันธกิจดังกล่าวนี้" วิลเลียม เบา บีน (William Bao Bean) หุ้นส่วนทั่วไป บริษัทเอสโอเอสวี กล่าว
นอกจากนี้ บาวน์ตี้ มีเดีย ยังจะให้บริการสร้างรายได้พิเศษที่สนับสนุนผู้ใช้ 105 ล้านรายในอีโคซิสเต็มเอ็มโอเอ็กซ์ (MOX) ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ระดับโลกสร้างความบันเทิงให้กับผู้รับชมได้ด้วยคอนเทนต์ แอปพลิเคชัน การให้ความรู้ และสื่อข่าวสารระดับพรีเมียม เพื่อแลกกับข้อมูลแบบบุคคลที่หนึ่ง
เกี่ยวกับบาวน์ตี้ มีเดีย
บริษัทบาวน์ตี้ มีเดีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2562 ในสิงคโปร์ โดยเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีโฆษณาและเทคโนโลยีตลาดซึ่งให้บริการโซลูชันการสร้างรายได้สำหรับผู้โฆษณาและผู้เผยแพร่โฆษณา
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1763939/Jake_Denney_and_Claes_Loberg.jpg
คำบรรยายภาพ - เจค เดนนี (ซ้าย) และแคลส โลเบิร์ก (ขวา) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทบาวน์ตี้ มีเดีย