รพ.มะเร็งชีวามิตราเผยกลุ่มบุหรี่มือสอง - ฝุ่น PM 2.5 เสี่ยงมะเร็งปอด แนะตรวจสุขภาพทุกปี ชี้พบเร็วเพิ่มโอกาสรักษาหาย 31%

พฤหัส ๑๗ มีนาคม ๒๐๒๒ ๑๐:๐๙
โรงพยาบาลมะเร็งชีวามิตรา โรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางโรคมะเร็งแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เผย "กลุ่มบุหรี่มือสอง" เสี่ยงมะเร็งปอดไม่แพ้คนสูบ เปิดผลการศึกษา "ฝุ่น PM 2.5" สร้างความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดได้มากถึง 1 - 1.4 เท่า ส่งผลร้ายต่อปอดเทียบเท่าบุหรี่ แนะตรวจสุขภาพดูแลตัวเองสม่ำเสมอทุกปี ชี้ตรวจพบเร็วมีโอกาสรอดชีวิต 31% โดยเทคโนโลยีในปัจจุบันมีวิวัฒนาการด้านการรักษา และตรวจคัดกรองที่รวดเร็ว ละเอียด ปลอดภัย ด้วย CT chest Low dose การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ปอดปริมาณรังสีต่ำ สามารถตรวจคัดกรองเชื้อมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก
รพ.มะเร็งชีวามิตราเผยกลุ่มบุหรี่มือสอง - ฝุ่น PM 2.5 เสี่ยงมะเร็งปอด แนะตรวจสุขภาพทุกปี ชี้พบเร็วเพิ่มโอกาสรักษาหาย 31%

นายแพทย์ธนุตม์ ก้วยเจริญพานิชก์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมะเร็งชีวามิตรา โรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางโรคมะเร็งแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เผยว่า "มะเร็งปอด" ถือเป็น 1 ใน 5 อันดับแรกของโรคมะเร็งและมีอัตราผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยสถาบันวิจัยมะเร็งนานาชาติ องค์การอนามัยโลก รายงานว่า ในแต่ละปีมีผู้ป่วยรายใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 2 ล้านคน และเสียชีวิต 1.7 ล้านคนต่อปี ทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศไทยพบว่ามะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 และยังพบว่ามะเร็งปอด เป็นเชื้อมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในเพศชาย และอันดับ 5 ในเพศหญิง โดยทุก ๆ วัน เฉลี่ยวันละ 42 คน ขณะที่ปัจจุบันมีดารา ศิลปิน และบุคคลมีชื่อเสียงในสังคม มีอัตราเสียชีวิตด้วย "มะเร็งปอด" เพิ่มขึ้นหลายราย แน่นอนว่าสาเหตุหลักของการก่อเชื้อมะเร็งปอดนั้นมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่มีความเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ หรือการได้รับมวลสารที่ก่อสารมะเร็งเข้าไปทำร้ายปอดโดยไม่รู้ตัว พฤติกรรมที่เสี่ยงต่อมะเร็งปอดและเป็นสาเหตุหลักคือ การสูบบุหรี่ ซึ่งมีอัตราสูงถึง 85%

ขณะที่ หลายคนอาจเข้าใจว่าผู้ที่สูบบุหรี่เท่านั้นที่มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปอด แต่จากการสอบประวัติผู้ป่วยกลับพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งปอดกว่า 20% ไม่มีประวัติการสูบบุหรี่เลย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ให้เห็นว่ายังมีอีกหลายสาเหตุที่คาดไม่ถึงว่าเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้ ทั้งนี้ สาเหตุของมะเร็งปอดเกิดได้หลายเหตุปัจจัย โดยเฉพาะกลุ่มบุหรี่มือสอง ที่อยู่ร่วมกับผู้สูบบุหรี่ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการสูดควันสูบบุหรี่จำนวนมากเป็นประจำสม่ำเสมอ การได้รับควันบุหรี่มือสอง มือสาม จากการสูดหายใจเข้าไปจะทำให้มีสารพิษตกค้าง จนก่อให้เกิดมะเร็ง นอกจากนี้ สภาวะแวดล้อมที่มีฝุ่นละอองที่เป็นพิษก็มีผลต่อสาเหตุการเกิดมะเร็งปอด จากการศึกษาพบว่า ฝุ่น PM2.5 ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดได้มากถึง 1 - 1.4 เท่า นับว่ามีความร้ายแรงเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ นอกจากสาเหตุข้างตนแล้วยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น การสูดดมควันจากการทำอาหาร ควันที่มาจากธูปหรือเทียน และการเกิดยีนส์กลายพันธุ์ขึ้นในร่างกาย ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปอดได้อีกด้วย

นายแพทย์ธนุตม์ กล่าวเพิ่มเติม "การหมั่นตรวจเช็คอาการผิดปกติทางร่างกายเบื้องต้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เช่น อาการไอเรื้อรัง ไอปนเลือด น้ำหนักลดโดยไม่มีสาเหตุ เหนื่อยง่าย หรือเสียงแหบ เป็นต้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อมะเร็งปอดที่ควรต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปอดอย่างสม่ำเสมอในทุก ๆ ปี อาทิ ผู้ที่มีพฤติกรรมการสูบบุหรี่วันละ 1 ซองหรือมากกว่า เป็นระยะเวลากว่า 30 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่สูบวันละ 2 ซองหรือมากกว่า เป็นระยะเวลา 15 ปีขึ้นไป และยังรวมไปถึงบุคคลที่เป็นกลุ่มบุหรี่มือสอง หรือ Second hand smoker ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่สูบบุหรี่ หรือได้รับควันบุหรี่เป็นประจำ ก็นับเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงเช่นเดียวกันเพราะในควันบุหรี่มีสารก่อมะเร็งมากกว่า 60 ชนิด"

"ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์มีวิวัฒนาการก้าวไกล ทั้งรูปแบบการรักษาที่มีการพัฒนาเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นยาพุ่งเป้า ยาภูมิต้านทานเคมีบำบัด รวมถึงการฉายรังสี ความร้อนบำบัด และเช่นเดียวกับขั้นตอนการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปอดในปัจจุบัน ที่มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถตรวจได้ละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เรียกว่า CT chest Low dose ซึ่งเป็นการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ปอดปริมาณรังสีต่ำที่สามารถตรวจคัดกรองได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ด้วยวิธีการถ่ายภาพสามมิติที่ให้ความละเอียดมากกว่าการเอกซเรย์ธรรมดา ทั้งยังช่วยบ่งบอกถึงสมรรถภาพปอดเมื่อเทียบกับคนปกติได้ โดยการทำ Spirometry หรือ Lung Function Test ซึ่งจะช่วยในการตรวจหาโรคปอดอื่น ๆ เช่น หอบหืด ถุงลมโป่งพองได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับคนไข้ที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่เป็นประจำทุกวันและบ่อยครั้ง ซึ่งผลลัพธ์ที่แม่นยำจะเป็นประโยชน์มากในการวางแผนการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยด้านข้อมูลจากสาธารณะสุขพบว่า การตรวจคัดกรองมะเร็งปอดด้วยเทคโนโลยี CT chest Low dose หากตรวจพบเชื้อมะเร็งปอดได้ตั้งแต่ในระยะแรกตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดและรอดชีวิตได้เพิ่มขึ้น 31% อีกด้วย" นายแพทย์ธนุตม์ กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: แอบโซลูท พีอาร์

รพ.มะเร็งชีวามิตราเผยกลุ่มบุหรี่มือสอง - ฝุ่น PM 2.5 เสี่ยงมะเร็งปอด แนะตรวจสุขภาพทุกปี ชี้พบเร็วเพิ่มโอกาสรักษาหาย 31%

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO