ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ซึ่งมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการ "Thailand International Air Show" ที่ทีเส็บได้ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้และขับเคลื่อนให้เป็นเครื่องมือส่งเสริมการค้าการลงทุนของอุตสาหกรรมการบินในพื้นที่ EEC โดยกำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการจัดงาน ทีเส็บและกองทัพเรือเป็นหน่วยงานสนับสนุน โดยทีเส็บจะรับผิดชอบการประชาสัมพันธ์และการตลาดของงานทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ และร่วมเป็นคณะทำงานในการจัดหาผู้จัดงานและดึงผู้ร่วมแสดงสินค้าเข้าร่วมงาน
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ในการเตรียมความพร้อมสนับสนุนการจัดงาน "Thailand International Air Show" ทีเส็บจะดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ในพื้นที่ EEC ซึ่งประกอบด้วย 4 กลยุทธ์ ลำดับแรกคือ ความร่วมมือ 3Cs - Cooperation, Connection, Community Based หรือ การสร้างความร่วมมือในเชิงการบูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชนในการจัดงาน การสร้างความเชื่อมโยงประสานให้เกิดความพร้อมของเมืองในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน และการสร้างสรรค์จุดหมายปลายทางไมซ์ใหม่ ๆ ในท้องถิ่นให้ตอบโจทย์นักเดินทางไมซ์
ลำดับสองคือ กลยุทธ์กระตุ้นให้เกิดการจัดงาน โดยอาศัยความพิเศษโดดเด่นในลักษณะภูมิประเทศของภาคตะวันออกที่สามารถสร้างงานจากอัตลักษณ์ของเมือง หรือจัดงานตามอุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อสร้างจุดขายเชิงโอกาสทางธุรกิจและการจัดงานให้กับพื้นที่ ลำดับที่สามคือ กลยุทธ์ในการทำการตลาด สร้างการรับรู้ว่าพื้นที่และผู้ประกอบการในพื้นที่มีความพร้อม สามารถเป็นเจ้าภาพที่ดี มีมาตรฐานของสถานที่จัดงานรองรับ ทั้งห้องประชุม ศูนย์ประชุม และสถานที่พิเศษสำหรับการจัดงาน และสุดท้ายคือ กลยุทธ์ในการพัฒนา ที่จะมุ่งพัฒนาผู้ประกอบการ สถานประกอบการ และห่วงโซ่อุปทานในพื้นที่ให้มีมาตรฐาน และมีศักยภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น
"การจัดงาน Thailand International Air Show เป็นหนึ่งในโครงการงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ ที่ ทีเส็บดำเนินการผลักดันให้เกิดขึ้นในพื้นที่ EEC โดยเริ่มศึกษาความเป็นไปได้รวมถึงโมเดลความร่วมมือในแบบต่าง ๆ กับที่ปรึกษาต่างประเทศ เพื่อวางกรอบความร่วมมือในการจัดงานแสดงสินค้าด้านการบิน โดยมีกำหนดจัดงานประกาศตัวในปี พ.ศ. 2566 งานเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2568 และการจัดงานเต็มรูปแบบในปี พ.ศ. 2570 โดยจะจัดงานต่อเนื่องทุก 2 ปี มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์และขับเคลื่อนการยกระดับสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ผ่านงานแสดงสินค้าระดับโลก ซึ่งเปรียบเสมือนกลไกหลักในการพลิกฟื้น ขับเคลื่อน และจุดประกายให้อุตสาหกรรมการแสดงสินค้าของไทยกลับมาเคลื่อนไหวและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด 19"
เพื่อเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการในการรองรับการจัดงาน "Thailand International Air Show" และเพื่อร่วมยกระดับอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ของไทย ทีเส็บจะดำเนินโครงการ "Road to Air Show" โดยริเริ่มจัดงานสัปดาห์งานแสดงสินค้าและงานในอุตสาหกรรมไมซ์ ภายใต้ชื่อ "Aviation & LOG-IN Week" ซึ่งเป็นการรวมงานแสดงสินค้า การประชุม และงานเมกะอีเว้นต์ มาจัดในพี้นที่เดียวกัน ในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน เพื่อต่อยอดโอกาสในการเข้าร่วมงาน ให้เกิดการมีส่วนร่วมในงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมนั้น ๆ ตลอดจนช่วยกระตุ้นผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจแบบทวีคูณ
ผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดงาน "Thailand International Air Show" คาดการณ์ว่า จากการจัดงานแอร์โชว์ทุก ๆ 2 ปี เป็นจำนวน 5 ครั้งอย่างต่อเนื่อง จะผลักดันการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ได้ถึง 4,777 ล้านบาท กระตุ้นการจ้างงาน 18,760 ตำแหน่ง สร้างรายได้ทางภาษีให้ภาครัฐได้ 1,788 ล้านบาท และคาดการณ์ผู้ร่วมงาน 75,000 คน รวมถึงสร้างประโยชน์มูลค่ามหาศาลต่อภาคอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าและอุตสาหกรรมไมซ์ของไทย ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายประเทศไทย 4.0 และแผนพัฒนาของ สกพอ.
สำหรับในปี พ.ศ. 2565 นี้ มีงานแสดงสินค้านานาชาติยืนยันมาจัดแสดงในพื้นที่ EEC ซึ่งนับเป็นงานนำร่อง ภายใต้การสนับสนุนของทีเส็บ อาทิ งาน "Maintenance, Industrial Robotics and Automation" (MIRA) ระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคมนี้ และงาน "Manufacturing Transformation Thailand" (MATRA) ระหว่างวันที่ 29-30 กันยายนนี้ โดยในปีต่อ ๆ ไป ทีเส็บมีแผนดึงงานแสดงสินค้านานาชาติอื่น ๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรม 12 S-Curve ทั้งงานใหม่และงานที่จัดอย่างต่อเนื่อง มาจัดแสดงในพื้นที่ EEC เพื่อร่วมสนับสนุนนโยบายของ สกพอ. ในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ และช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา: สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ