แอสตร้าเซนเนก้า ใกล้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ จากโครงการพัฒนาอุปกรณ์สูดพ่นยารุ่นใหม่ ภายใต้ความร่วมมือกับฮันนี่เวลล์

พฤหัส ๒๔ มีนาคม ๒๐๒๒ ๑๐:๑๘
แอสตร้าเซนเนก้าและ ฮันนี่เวลล์ จะร่วมมือกันพัฒนาอุปกรณ์สูดพ่นยารุ่นใหม่โดยใช้สารขับดันชนิด HFO-1234ze ซึ่งมีค่าศักยภาพในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (Global Warming Potential หรือ GWP) ต่ำกว่าสารขับดันทั่วไปซึ่งมีการใช้ในเภสัชภัณฑ์สำหรับโรคระบบทางเดินหายใจถึง 99.9%1
แอสตร้าเซนเนก้า ใกล้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ จากโครงการพัฒนาอุปกรณ์สูดพ่นยารุ่นใหม่ ภายใต้ความร่วมมือกับฮันนี่เวลล์

บริษัท ฯ ประกาศความร่วมมือดังกล่าวพร้อมกับการเผยแพร่รายงานด้านความยั่งยืนประจำปีของแอสตร้าเซนเนก้า และแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าของ Ambition Zero Carbon ซึ่งเป็นโครงการด้านความยั่งยืนหลักขององค์กรในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ทั้งนี้ รายงานด้านความยั่งยืน ประจำปี 2565 ได้ระบุว่าพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของแอสตร้าเซนเนก้าที่นำมาใช้นั้นมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน และบริษัทฯ สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง (Scope 1) และทางอ้อม (Scope 2) ได้ถึง 59% นับตั้งแต่ปี 2558 โดยเป็นการคำนวณรวมคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของ Alexion ด้วย

นายปาสกาล โซริออท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอสตร้าเซนเนก้า กล่าวว่า "แอสตร้าเซนเนก้ามีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากในการผลักดันบริษัทสาขาต่าง ๆ ทั่วโลกให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2568 และตั้งเป้ามีห่วงโซ่ธุรกิจที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนในอัตราติดลบภายในปี 2573 ความร่วมมือของแอสตร้าเซนเนก้ากับ ฮันนี่เวลล์ ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งสามารถเปลี่ยนชีวิตผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้นไปพร้อมกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม"

ดาเรียส อดัมซิค ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ฮันนี่เวลล์ กล่าวว่า "ความร่วมมือของฮันนี่เวลล์ และแอสตร้าเซนเนก้าในโครงการพัฒนาอุปกรณ์สูดพ่นยารุ่นใหม่ ซึ่งใช้สารขับดันที่มีค่า GWP เกือบเป็นศูนย์ มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ เรามีเป้าหมายที่จะลดปริมาณการผลิตก๊าซเรือนกระจกจากการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ โดยปราศจากการจำกัดทางเลือกในการรักษาหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อผลกระทบด้านสุขภาพของผู้ป่วย"

อุปกรณ์สูดพ่นยารุ่นใหม่
ผู้ป่วยโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic obstructive pulmonary disease หรือ COPD) ส่วนใหญ่ต้องพึ่งพายาสูดพ่น2 และหลายคนใช้อุปกรณ์สูดพ่นยาขยายหลอดลมชนิดฝอยละอองของเหลว (Pressurized metered dose inhalers หรือ pMDIs)2 ซึ่งมีการใช้ก๊าซเรือนกระจกเป็นสารขับดันเพื่อนำส่งยาเข้าสู่ปอดของผู้ใช้ 3

ผลล่าสุดจากการทดลองครั้งแรกในมนุษย์ระยะที่ 1 ซึ่งใช้สารขับดันชนิด HFO-1234ze ที่มีค่าก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (Global Warming Potential หรือ GWP) เกือบเป็นศูนย์ ในยาสูดพ่นขยายหลอดลมชนิดฝอยละอองของเหลวหรือ pMDIs ซึ่งมี Budesonide, Glycopyrronium และ Formoterol fumarate เป็นสารประกอบ พบว่ามีผลเชิงบวกจากการใช้ในผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี โดยพบว่ามีความปลอดภัย ความทนต่อยาและการดูดซึมของสารองค์ประกอบเข้าสู่ร่างกายในระดับที่ใกล้เคียงกับการใช้ยา Breztri Aerosphere (ซึ่งมี Budesonide, Glycopyrronium และ Formoterol fumarate เป็นองค์ประกอบ) แอสตร้าเซนเนก้าคาดว่ายา Breztri จะเป็นยาชนิดแรกที่จะมีการพัฒนาใช้แพลตฟอร์ม pMDI แบบใหม่ ซึ่งจะมีการยื่นขึ้นทะเบียนเพื่อการอนุมัติทะเบียนยาในลำดับต่อไป ทั้งนี้นอกจากยาสูดพ่นขยายหลอดลมชนิดฝอยละอองของเหลวหรือ pMDIs รุ่นใหม่ แอสตร้าเซนเนก้ายังจะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมยาสูด ชนิดผงแห้งอีกด้วย

โรคระบบทางเดินหายใจส่งผลกระทบต่อประชากรจำนวนหลายร้อยล้านคนทั่วโลก โดยพบว่าในทางการแพทย์มีความต้องการยาสูดพ่นขยายหลอดลมชนิดฝอยละอองของเหลวหรือ pMDIs ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากสำหรับผู้ป่วย-9 โดยความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ สมรรถภาพปอดที่ลดลง และระดับอายุของผู้ป่วยทั้งในกลุ่มเด็กและผู้ใหญ่ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญประกอบการพิจารณาเลือกอุปกรณ์ยาสูดพ่นที่เหมาะสมที่สุด5-9

การกำหนดเป้าหมายด้านผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนให้แก่เครือข่ายซัพพลายเออร์ โดยใช้วิทยาศาสตร์เป็นเกณฑ์
แอสตร้าเซนเนก้าถือเป็นหนึ่งใน 7 บริษัทแรกของโลกที่มีเป้าหมายให้ปริมาณการผลิตก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ขององค์กร ผ่านการตรวจสอบและยืนยันโดยโครงการกำหนดเป้าหมายโดยอิงหลักวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets initiative หรือ SBTi) ว่าสอดคล้องกับมาตรฐานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ขององค์กร(Corporate Net Zero Standard) ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการลดปริมาณการผลิตก๊าซเรือนกระจกขององค์กร แอสตร้าเซนเนก้ามุ่งผลักดันให้ 95% ของเครือข่ายซัพพลายเออร์และพันธมิตรทางธุรกิจ มีเป้าหมายที่ใช้วิทยาศาสตร์เป็นเกณฑ์เช่นเดียวกัน ภายในสิ้นปี 2568

แอสตร้าเซนเนก้าแบ่งปันข้อมูลจากประสบการณ์ด้านการลดปริมาณการผลิตก๊าซเรือนกระจกขององค์กร โดยบริษัทเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Energize โปรแกรมซึ่งเปิดตัว ณ การประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 หรือ UN Climate Change Conference of the Parties (COP26) อันมุ่งเน้นการยกระดับการเข้าถึงพลังงานหมุนเวียนสำหรับซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมยา และ Sustainable Markets Initiative (SMI) Health System Taskforce โครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนของระบบบริการสุขภาพในกลุ่มประเทศต่างๆ ซึ่งมุ่งขับเคลื่อนให้เกิดระบบบริการสุขภาพที่มีปริมาณการผลิตก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของแอสตร้าเซนเนก้าในปี 2564 ในรายงานด้านความยั่งยืน และข้อมูลด้านความยั่งยืน ซึ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ผ่านมา

ที่มา: แอสตร้าเซนเนก้า

แอสตร้าเซนเนก้า ใกล้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ จากโครงการพัฒนาอุปกรณ์สูดพ่นยารุ่นใหม่ ภายใต้ความร่วมมือกับฮันนี่เวลล์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO