นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวในฐานะเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานตรวจแรงงานในการบังคับใช้กฎหมายและให้ความคุ้มครองแก่กลุ่มแรงงานเปราะบาง (เด็ก ผู้หญิง และแรงงานข้ามชาติ) ว่า การคุ้มครองกลุ่มแรงงานเปราะบาง โดยเฉพาะเด็ก ผู้หญิง และแรงงานข้ามชาติ เป็นนโยบายสำคัญของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในการให้การคุ้มครองแรงงานบนพื้นฐานหลักการของสิทธิมนุษยชน และการไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งแรงงานกลุ่มนี้มีความอ่อนไหว ละเอียดอ่อน และซับซ้อน จึงจำเป็นต้องดำเนินงานร่วมกันเป็นภาคีเครือข่าย เพื่อเสริมความเข้มแข็งระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรภาคประชาสังคม และองค์กรพัฒนาเอกชนในพื้นที่ ให้ร่วมดำเนินงานตามบทบาทหน้าที่และศักยภาพของแต่ละภาคส่วน ซึ่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ ซึ่งการประชุมมีระยะเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 28 - 29 มีนาคม 2565 มีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 50 คน ประกอบด้วย พนักงานตรวจแรงงานระดับปฏิบัติการจากส่วนกลาง จำนวน 17 คน และส่วนภูมิภาคจากจังหวัด จำนวน 33 คน
อธิบดี กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยความร่วมมือระหว่างองค์กรภาคี การอบรมในครั้งนี้จะช่วยผลักดันขีดความสามารถของพนักงานตรวจแรงงาน ที่เป็นกลไกสำคัญในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองแรงงานกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นกลุ่มสุ่มเสี่ยงต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้านแรงงาน โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบสถานการณ์การจ้างงาน การเลิกจ้าง การจ่ายค่าจ้างล่าช้าหรือค้างจ่ายค่าจ้าง และการละเมิดสิทธิแรงงานที่มีความสลับซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งพนักงานตรวจความปลอดภัยที่เป็นด่านหน้าของการคุ้มครองแรงงานต้องเตรียมพร้อมรับมือกับข้อท้าทายใหม่ ๆ เพื่อปกป้องสิทธิแรงงาน และคุ้มครองแรงงานให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่กฎหมายกำหนด มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และสร้างความเชื่อมั่น รวมถึงภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยต่อไป
ที่มา: กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน