ด้านเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวม คาดรายได้ตามเป้าที่ 28,000 ล้านบาท ส่วนปริมาณการขายคาดว่าจะสามารถทำยอดขายยางพาราอยู่ที่ 500,000 ตัน จากกำลังการผลิตทั้งหมด 510,000 ตัน โดยสัดส่วนของยอดขายในปี 2565 บริษัทยังวางนโยบายการจำหน่ายสินค้าในประเทศและต่างประเทศเป็น 65:35 เพื่อหลีกเลี่ยงอัตราค่าระวางเรือที่ปรับเปลี่ยนในทิศทางที่สูงขึ้น โดยมองว่าความต้องการใช้ยางพาราในอุตสาหกรรมยังดีต่อเนื่อง หากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ก็จะทำให้มีการคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางอากาศ และทางเรือสูงมากขึ้น ส่งผลดีต่อความต้องการใช้ธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้บริษัทขอเชิญชวนผู้ถือวอร์แรนต์ (NER-W1) ให้แจ้งการใช้สิทธิแปลงสภาพครั้งสุดท้าย ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 โดยมีระยะเวลาการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายระหว่างวันที่ 11 - 25 พฤษภาคม 2565 ณ สถานที่ติดต่อในการใช้สิทธิคือ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) ณ อาคารเซ็นทรัลซิตี้บางนา ชั้น 28 กรุงเทพฯ ทั้งนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย ซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ 1 หุ้น ในราคาใช้สิทธิ 1.80 บาทต่อหุ้น
สำหรับวัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตและยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น จากนโยบายของบริษัทที่เดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และช่วยเสริมให้บริษัทมีฐานเงินทุนที่เข้มแข็งขึ้น สำหรับการขยายการดำเนินงานในอนาคต
ที่มา: ธามดี พลัส