เภสัชกรหญิงสุนัยนา กิจเกษตรไพศาล ผู้จัดการทั่วไป แซดพี เทอราพิวติกส์ ซิลลิค ฟาร์มา ประเทศไทย เปิดเผยว่า "บริษัทฯ รู้สึกได้รับเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ในการเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์น่าให้แก่ประชาชนโดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ จากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล ล่าสุดทางวารสาร New England Journal of Medicine ได้มีรายงานข้อมูลผลการศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 จากการฉีดวัคซีนโมเดอร์น่า และวัคซีนไฟเซอร์ ในประเทศกาตาร์ โดยทำการประเมินอุบัติการณ์ของการติดเชื้อโควิด-19 หลังจากการได้รับวัคซีนโมเดอร์น่า และวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ระหว่างวันที่ 21 ธันวาคม 2563 - 20 ตุลาคม 2564 จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนโมเดอร์น่า ครบ 2 เข็ม จำนวน 192,123 ราย มีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 878 ราย มีเพียง 3 รายที่มีอาการรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ไม่พบรายที่รุนแรงขั้นวิกฤติหรือนำไปสู่การเสียชีวิต ส่วนในกลุ่มของผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ ครบ 2 เข็ม จำนวน 192,123 ราย มีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 1,262 ราย มี 7 รายที่มีอาการรุนแรง และ 1 รายที่เสียชีวิต โดยสรุปแล้ว วัคซีนโมเดอร์น่า จะพบอุบัติการณ์การของการติดเชื้อภายหลังการได้รับวัคซีนที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับวัคซีน ไฟเซอร์ ซึ่งมีความสอดคล้องกับงานวิจัยก่อนหน้าที่แสดงถึงระดับภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันในผู้ที่ได้รับวัคซีนทั้งสอง"
"แซดพี เทอราพิวติกส์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนแก่ประชาชนและสนับสนุนประเทศไทยในการรับมือกับโควิด-19 โดยนำเสนอบริการระดับโลกในการจัดจำหน่าย การบริการด้านดิจิทัลและการพาณิชย์ ให้แก่สถานพยาบาล เพื่อสนับสนุนแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเสริมสร้างเกราะป้องกันที่จำเป็นต่อสายพันธุ์ใหม่ที่น่ากังวล (Variants of Concern) ในเทศกาลสงกรานต์นี้"
ที่มา: ซิลลิค ฟาร์มา