นายเควิน เฉิง ประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า แม้ความต้องการของตลาดจะมีการเปลี่ยนแปลงและมีความท้าทายมากขึ้นจากการระบาดของโควิด -19 ซึ่งหัวเว่ย ประเทศไทยยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากความเข้าใจในความสำคัญและความจำเป็นในการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ อีกทั้งการร่วมมือและการสนับสนุนจากพาร์ทเนอร์ ทำให้หัวเว่ย ประเทศไทย สามารถบรรลุเป้าหมายในการเติบโตได้เป็นอย่างดี ทำให้หัวเว่ยกลายเป็นผู้สนับสนุนภาคธุรกิจต่างๆในการก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล
กลยุทธ์สำคัญในการดำเนินงานของหัวเว่ยคือ การเดินหน้าสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปิดกว้าง, ความร่วมมือในการทำงาน และสนับสนุนความสำเร็จให้กับทุกฝ่ายบนพื้นฐานสำคัญที่ประกอบไปด้วยความสามารถในการสร้างรายได้, นโยบายสนับสนุนธุรกิจที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน, การเพิ่มศักยภาพให้กับพาร์ทเนอร์ และการสร้างอีโคซิสเต็มส์ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งภายในงานครั้งนี้หัวเว่ย ได้เผยถึงโปรแกรมและโซลูชันสำคัญที่จะสนับสนุนธุรกิจและการทำตลาดให้กับพาร์ทเนอร์ครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์
พร้อมกันนี้ หัวเว่ยยังได้นำเทคโนโลยีใหม่ๆในการสนับสนุนเป้าหมายในการเปลี่ยนทางดิจิทัล ขององค์กรต่างๆ มาจัดแสดงในงาน ซึ่งประกอบด้วยโซลูชันและผลิตภัณฑ์ในสี่กลุ่มหลักคือ AirEngine, CloudEngine, NetEngine และ HiSecEngine พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสำหรับศูนย์ข้อมูล ในกลุ่มออพติคัล และโซลูชันออล-แฟลช
"ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างและเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละอุตสาหกรรม เตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทาย รวมถึงมองหาโอกาสใหม่ๆจากการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ ตลอดจนถึงการผนึกกำลังและทำงานร่วมกับผู้เล่นในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างมูลค่าใหม่ๆให้กับตลาด" นายเควินกล่าว
ทั้งนี้ หัวเว่ยยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าทำงานภายใต้พันธกิจ "Grow in Thailand, Contribute to Thailand" โดยมุ่งเน้นในอุตสาหกรรมสำคัญมากกว่า 10 อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ท ซิตี้, การเงิน, พลังงาน, การขนส่ง, ผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต, การศึกษา, การดูแลสุขภาพ และอสังหาริมทรัพย์ โดยจะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เส้นทางการเปลี่ยนผ่านทางยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืนและราบรื่น
ที่มา: คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์