นายอาทิวราห์ คงมาลัย นักร้องนำวงบอดี้สแลม เข้ารับพระราชทานปริญญาศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาดนตรีสากล จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2565 ณ อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มหาวิทยาลัยรามคำแหง
โอกาสนี้ได้ให้สัมภาษณ์กับ "ข่าวรามคำแหง" ว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ในครั้งนี้ ตนเองไม่ได้เก่งมากไปกว่าคนอื่น แค่ทำในสิ่งที่มีความสุข สนุก และมีคุณค่ากับตัวเอง ดีใจมากที่เพลงและผลงานที่ทำได้สะท้อนและมีคุณค่าทำให้เกิดรอยยิ้ม พลังงานดีๆ กับหลายๆ คน ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ตนเองเป็นวงดนตรี มีสมาชิกในทีม 4 -5 คน ช่วยกันคิด ช่วยกันทำงาน และร้องเล่นร่วมกันมาโดยตลอด ดังนั้นเกียรติจากปริญญากิตติมศักดิ์ สาขาวิชาดนตรีสากล ครั้งนี้ ขอแบ่งปันให้กับพี่ๆ ในวงบอดี้สแลม ด้วย
ตูน บอดี้สแลม กล่าวต่อไปว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดโอกาสให้หลายคนได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาเล่าเรียน โดยสามารถเลือกเรียนในคณะหรือสาขาวิชาที่ตนเองอยากเรียนจริงๆ ได้ โดยไม่จำกัดอายุ เพศ อีกทั้งคนทำงานก็สามารถเรียนควบคู่ไปได้ด้วย ดังนั้นทุกคนสามารถมีโอกาสทางการศึกษาได้ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ และสำเร็จการศึกษาออกไปเป็นบุคลากรที่ดี สร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศมาอย่างช้านานและตลอดไป
สำหรับ หลักในการปฏิบัติตนให้ประสบความสำเร็จในการทำงานและการดำเนินชีวิตนั้น ตนเองจะทำในสิ่งที่ทำแล้วมีความสุขและใช้สารแห่งความสุข เป็นตัวตั้งต้นในการทำสิ่งต่างๆ ที่อยากจะสื่อสารออกไป เช่น การแต่งเพลง ทำดนตรี การเล่น การร้อง และสื่อสารในเรื่องราวต่างๆ ตราบใดที่เราทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้แล้วมีความสุข นั่นคือเราประสบความสำเร็จในเบื้องต้น สุดท้ายแล้วงานที่ตนเองทำเป็นงานศิลปะกึ่งพาณิชย์ บางทีก็ต้องหาความสมดุลให้กับงาน โดยเริ่มต้นจากการบวก ลบ คูณ หาร คำนวณในตัวเองก่อนเพื่อให้เกิดสมดุลในความเป็นตัวเองและมีความสุขกับงานชิ้นนั้นที่เราเลือกทำ ก็จะทำให้ความสุขของเราสามารถสร้างความสุขให้ใครหลายๆคนได้อีกด้วย
"บัณฑิตทุกคนมีการตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตไว้แล้ว แต่อยากให้พิชิตเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวันก่อน เพราะเป้าหมายใหญ่ใช้เวลานานกว่าจะไปถึง แต่ความสุขและความสำเร็จเล็กๆ ในแต่ละวันนั้น สามารถสัมผัสได้เลย จงคิดและทำทีละอย่างนำมาประกอบกันอย่างมีความสุข เก็บเกี่ยวความสำเร็จเล็กๆ ระหว่างทางไปเรื่อยๆ เรียนรู้ที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ความสุขระหว่างวันนั้นจะหล่อเลี้ยงตัวเราได้ดี และจะส่งผลให้ประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตอย่างแน่นอน"
ที่มา: มหาวิทยาลัยรามคำแหง