แนวคิด"แก๊สหมด กดสั่งเวิลด์แก๊ส" ถูกนำมาตีความให้จับต้องได้ผ่านภาพยนตร์โฆษณาที่เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวันของคนไทยมาบอกเล่าผ่านการสื่อสารง่ายๆ แบบ Single message น่ารัก และตรงไปตรงมาเพื่อให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มได้ ทั้งกลุ่มที่เป็นลูกค้าของแบรนด์ในปัจจุบัน และ กลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของแบรนด์ในอนาคต โดยแฝงเซนส์ของความตลกขบขันที่หยิบยกลักษณะนิสัยของคนไทย บอกเล่าความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้านที่มีการพึ่งพาอาศัยกันอยู่เสมอตามบริบทของสังคม จนกลายเป็นเส้นบางๆ ระหว่างการพึ่งพาอาศัยกับการเป็นภาระ โดยเปิดภาพมาที่หญิงสาววัยทำงานกำลังเพลิดเพลินกับการทำอาหารราวกับกำลังบรรเลงดนตรีออเคสตร้าในครัวของบ้านสไตล์โมเดิร์นแห่งหนึ่ง ด้วยพลังไฟที่แรงของแก๊สหุงต้มแบรนด์เวิลด์แก๊สทำให้สามารถสร้างสรรค์อาหารได้หลากหลายเมนูอย่างราบรื่น ทันใดนั้นมีเสียงแทรกขึ้นมาว่า "แก๊สหมดทีไร มาใช้แก๊สบ้านเราทุกที" หักมุมให้เห็นว่าหญิงสาวไม่ได้อยู่ในครัวของบ้านของตนเองแต่อย่างใด แต่มาอาศัยครัวในบ้านของเพื่อนบ้านในการทำอาหาร ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าถ้าสั่งเวิลด์แก๊สแต่แรกก็ไม่จำเป็นต้องเป็นภาระของเพื่อนบ้านเพราะฉนั้นทุกครั้งที่"แก๊สหมด กดสั่งเวิลด์แก๊ส"
โดยดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ ได้เริ่มมีการเผยแพร่แคมเปญโฆษณาชุด "หมดภาระ… เมื่อสั่งเวิลด์แก๊ส" สู่สาธารณชนตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมเป็นต้นมา ทั้งในรูปแบบของภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ความยาว 30 วินาที รวมถึงโฆษณาทางวิทยุ ตลอดจนสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์ และสื่อโฆษณานอกบ้าน (Out of Home) และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์ และการที่คนจดจำเกี่ยวกับแบรนด์ และสโลแกน "แก๊สหมด กดสั่งเวิลด์แก๊สได้มากขึ้น" หลังจากการสื่อสารแคมเปญโฆษณาตัวล่าสุดชุด "เคียงข้าง…สร้างรอยยิ้ม…" ที่ได้เผยแพร่ไปเมื่อปี 2563 จนถึงปัจจุบัน
คุณชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "เวิลด์แก๊สทราบดีว่าภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ และการสื่อสารที่ดีจะนำมาสู่การจดจำ และความภักดีต่อแบรนด์ ทั้งยังเป็นสิ่งสำคัญในตัดสินใจซื้อก๊าซหุงต้มของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เราจึงมุ่งมั่นในการสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์เวิลด์แก๊สผ่านแคมเปญโฆษณาชุดล่าสุด "หมดภาระ…เมื่อสั่งเวิลด์แก๊ส" อย่างชัดเจน เพื่อให้เราเป็นแบรนด์อันดับแรกที่ผู้บริโภคจดจำได้ และนึกถึงเมื่อแก๊สหมด ซึ่งนอกจากการสื่อสารเกี่ยวกับแบรนด์แล้วเรายังให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะความปลอดภัยของถังก๊าซทุกถัง ที่ผลิตขึ้นด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอน ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เลขที่ มอก 27-2543 โดยมีการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานอุตสาหกรรมอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้เรายังมีขนาดถังแก๊สที่หลากหลายพร้อมรองรับการใช้งานที่แตกต่างกันแต่ละรูปแบบของไลฟ์สไตล์ ทั้งขนาด 4 กิโลกรัม, 13.5 กิโลกรัม, 15 กิโลกรัม, 48 กิโลกรัม และใหม่ล่าสุดกับถังขนาด 8 กิโลกรัม ที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่างในตลาดก๊าซหุงต้มในปัจจุบัน ด้วยขนาดถังที่พอดี น้ำหนักที่ขนย้ายสะดวก ด้วยราคาและค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่ากว่า ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีพื้นที่ครัวน้อยลง หรือชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งกันมากขึ้น รวมทั้งเหมาะผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยที่ต้องการความคล่องตัวในการเคลื่อนย้ายและไม่ต้องการมีต้นทุนการเติมแก๊สต่อครั้งในปริมาณมากในสภาวะความท้าทายทางเศรษฐกิจยุค Next Normal ในปัจจุบัน" คุณชมกมลกล่าวสรุป
ที่มา: โอกิลวี่ ประเทศไทย