นายโยชิยูกิ โฮริโอะ ประธานกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เราครองความเป็นผู้นำในฐานะธนาคารพันธมิตรภายใต้เครือข่าย MUFG ที่กลุ่มธุรกิจญี่ปุ่นไว้วางใจมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี นับเป็นจุดแข็งของกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ที่เราให้บริการทั้งกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ และยังมีความเข้าใจธุรกิจเป็นอย่างดีทั้งในไทยและการขยายเครือข่ายในระดับโลก พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าทั้งบริการทางการเงินและบริการที่ช่วยเพิ่มมูลค่าต่างๆ เช่น การจับคู่ทางธุรกิจ นอกจากนี้ การผสานพลังกับ MUFG ช่วยให้เรามีเครือข่ายระดับโลกที่ครอบคลุมถึง 50 ประเทศ พร้อมทั้งเครือข่ายในอาเซียน 9 ประเทศ คือ ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเมียนมา เรียกได้ว่าเรามีความพร้อมที่จะเชื่อมต่อกลุ่มบริษัทญี่ปุ่น บรรษัทข้ามชาติ และบริษัทไทย และด้วยเครือข่ายระดับโลก เราจึงสามารถส่งมอบโซลูชั่นแก่ลูกค้าธุรกิจที่สนใจจะขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศได้"
ในปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ยังประสบความสำเร็จในการนำเสนอความแตกต่างในการให้บริการและผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าด้วยความร่วมมือกับ MUFG ได้แก่
- ความสำเร็จในการออกพันธบัตรสีเขียวและสินเชื่อสีเขียวเป็นครั้งแรกสำหรับลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นในประเทศไทยแก่บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
- ร่วมมือกับ MUFG และ MUFG Innovation Partners ในการสนับสนุนการลงทุนในสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตและขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ
- สนับสนุนกิจกรรมการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจ หรือ Business Matching ระหว่างลูกค้าบริษัทไทย ญี่ปุ่น และเครือข่าย MUFG ในอาเซียนอย่างต่อเนื่องในปี 2564 ที่ผ่านมา มีการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจถึง 473 คู่
- ร่วมมือกับ Mitsubishi UFJ Research & Consulting (MURC) ในการสนับสนุนลูกค้าธุรกิจในการวิจัยการตลาดและการให้บริการที่ปรึกษาอื่นๆ ซึ่งกรุงศรีประสบความสำเร็จในการสนับสนุนการลงทุนในประเทศอินเดียของลูกค้าธุรกิจกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
- ส่งเสริมการลงทุนใน EEC ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นทางการเงินและการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าสำนักงาน EEC รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI และนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ นำมาซึ่งความสำเร็จในการลงทุนของลูกค้าธุรกิจจากประเทศสิงคโปร์ใน EEC
ด้วยเป้าหมายที่จะยังคงสถานะการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจอันดับหนึ่งในใจลูกค้า กลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ได้เผยทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจปี 2565 ว่า "สำหรับในปีนี้ ทางกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 3.4% และให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่ออาเซียนซึ่งถือเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญของกรุงศรี โดยในปีนี้ กรุงศรีได้มีโครงการนำร่องเพื่อสนับสนุนและให้คำปรึกษาในการขยายธุรกิจสู่อาเซียนสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ในส่วนของ EEC นั้น เรามองว่า ยังมีโอกาสสำหรับลูกค้าบริษัทญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติในการขยายธุรกิจสู่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อีกมากมาย นับตั้งแต่กรุงศรีได้เปิดสำนักงาน EEC กรุงศรีก็ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจของลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ และยังเป็นการต่อยอดโอกาสสำหรับลูกค้าทั้งลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่น ลูกค้าบรรษัทข้ามชาติและลูกค้าธุรกิจไทยของกรุงศรีในการขยายธุรกิจในภูมิภาคต่อไป"
"ในปี 2565 นี้ กรุงศรียังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น และบริการใหม่ ๆ แก่ธุรกิจต่าง ๆ ด้วยความเข้าใจลูกค้าอย่างถ่องแท้ เราจะส่งมอบธุรกิจและข้อมูลตลาดด้วยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายระดับโลกและระดับประเทศ พร้อมนำเสนอโอกาสทางธุรกิจที่มีศักยภาพแก่ลูกค้าทั้งในประเทศไทยและอาเซียน ผ่านกิจกรรมสัมมนาและกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ โดยส่วนของการเป็นที่ปรึกษาแก่ลูกค้า เราเน้นการให้คำปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิประโยชน์ของการส่งเสริมการลงทุน เช่น เอกสิทธิ์จากการเป็นสำนักงานใหญ่ของภูมิภาค พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น Foreign Business Act เพื่อสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทย เราเชื่อมั่นว่าด้วยความสามารถอันแตกต่างของกรุงศรีและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปี เราจะช่วยขยายโอกาสและขับเคลื่อนการเติบโตของทั้งธุรกิจญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ ร่วมทั้งยังส่งผลดีต่อธุรกิจไทยในฐานะคู่ค้า และสำคัญที่สุดคือช่วยส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง" นายโฮริโอะกล่าวเพิ่มเติม
ที่มา: สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์