ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เปิดเผยว่าสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านร้านอาหารและภัตตาคาร และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ที่ให้การสนับสนุนในการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี การฝึกงาน และการสร้างรายได้ระหว่างเรียน ให้กับนักเรียน นักศึกษา ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานตามนโยบายประเทศในการร่วมผลิตและพัฒนากำลังคนสายอาชีพ ให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะประสบการณ์ในอาชีพ และเปิดโอกาสให้ นักเรียน นักศึกษาได้เข้าฝึกงาน ฝึกอาชีพในหน่วยงานต่างๆ ของบริษัท และการสนับสนุนจัดทำโครงการจัดสร้างห้องเรียนรู้และปฏิบัติการวิชาชีพ THAILAND 4.0 ในสถานศึกษาที่มีความสมัครใจและความพร้อม ในการจัดทำห้องเรียนตามเกณฑ์ของบริษัทฯ เพื่อเป็นที่สำหรับถ่ายทอดเทคโนโลยี และนวัตกรรมให้กับนักศึกษาและครูผู้สอน และเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาทางสายวิชาชีพให้มีศักยภาพนำไปสู่การผลิตและพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป
เลขาธิการคณะกรรมการกาอาชีวศึกษา กล่าวต่อไปว่า สอศ. และ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านอาหารและภัตตาคาร และมีสาขาวิชาชีพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอีกหลายอาชีพ มีความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ในสาขาวิชา อาหารและโภชนาการ ธุรกิจค้าปลีก การตลาด ช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ โลจิสติกส์ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ และฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพ (ฝึกงาน) ในทุกสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ระดับ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ พ.ศ. 2547 ถึงปัจจุบัน จำนวน 18 ปี โดยความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นส่วนขยายโดยให้สถานศึกษาจัดทำโครงการ "ห้องเรียนรู้และปฏิบัติการวิชาชีพ THAILAND 4.0" โดยเพื่อใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนตามสาขาวิชาที่สถานศึกษาต้องการ
ด้านนายวีระ โอวริทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่สายงานทรัพยากรมนุษย์ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้จัดทำโครงการ "ห้องเรียนรู้และปฏิบัติการวิชาชีพ THAILAND 4.0" โดยได้พิจารณาคัดเลือกสถานศึกษาสังกัด สอศ. ให้เข้าร่วมโครงการจำนวน 50 แห่ง ได้แก่สถานศึกษาของรัฐ จำนวน 39 แห่ง และสถานศึกษาเอกชน จำนวน 11 แห่ง ซึ่งสถานศึกษาดังกล่าวมีความพร้อมตามเกณฑ์ของบริษัทฯ เช่น สถานที่ สาขาวิชา จำนวนผู้เรียนที่เคยเข้าฝึกงาน ฝึกอาชีพ กับ บริษัท และสำเร็จการศึกษาตามจำนวนที่เหมาะสม
ทั้งนี้บริษัทฯ จะสนับสนุน "ห้องเรียนรู้และปฏิบัติการวิชาชีพ THAILAND 4.0" ให้สถานศึกษาที่สามารถทำได้ ตามเกณฑ์ของบริษัทฯ สถานศึกษาละ 1 ห้อง โดยจะสนับสนุนงบประมาณห้องเรียนรู้ละ 400,000 บาท ซึ่งเป็นห้องเรียนตามสาขาวิชาที่สถานศึกษาต้องการ
ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา