นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์("VL") เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ จ่ายปันผลสำหรับปี 2564 ในอัตรา 0.015 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น 14.5 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 นี้ ซึ่งเป็นการสะท้อนศักยภาพการเติบโต ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตด้าน ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 มีรายได้รวม 670 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.60 จากปีก่อน มีกำไรสุทธิ 23 ล้านบาท
สำหรับแผนในปี 2565 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการให้บริการขนส่งระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้นำการส่งออกรายใหญ่ของโลกขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ เร่งขยายแผนการให้บริการในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับความต้องการ เนื่องจากเส้นทางของประเทศดังกล่าว เป็นเส้นทางหลักของการขนส่งของ "VL" ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯให้บริการขนส่งทางทะเล ในต่างประเทศ อาทิ น้ำมันปาล์ม น้ำมันหล่อลื่น น้ำมันปิโตรเลียม
อีกทั้งยังเตรียมขยายกองเรือเพิ่ม จำนวน 1 ลำ น้ำหนักบรรทุกไม่ต่ำกว่า 10,000 เดตเวตตัน (DWT) ภายใต้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท โดยเรือดังกล่าวบริษัทฯ คาดว่าจะนำเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการให้สูงขึ้น ซึ่งสอดรับกับนโยบายบริษัทฯในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้หากกองเรือดังกล่าวสามารถเข้ามาตามระยะเวลาที่กำหนด ก็สามารถดำเนินการให้บริการในเชิงพาณิชย์ได้ทันที ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯรับรู้รายได้จากการให้บริการเรือดังกล่าว โดยเฉลี่ยเข้ามาในปี 2565 ประมาณ 90 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อน ให้เป้าหมายการเติบโตของของรายได้ในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 25 % เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้รวม 670 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ประธานเจ้าหน้าที่ "VL" ฝากไปยังผู้ถือหุ้นว่า การใช้สิทธิแปลงสภาพครั้งที่ 2 จะครบกำหนดระยะเวลาในวันที่ 27 เมษายนนี้แล้ว โดยบริษัทฯ ได้เตรียมเปิดให้ผู้ถือหน่วยแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ VL-W1 ได้ระหว่างวันที่ 20-26 เมษายนนี้ ที่อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยวอร์แรนต์ ต่อ 1 หุ้นสามัญ ในราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ 0.50 บาท/หุ้น โดยเงินที่ได้รับจากการใช้สิทธิแปลงสภาพบริษัทฯจะนำไปขยายการลงทุนสำหรับการขยายกองเรือ เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถของบริษัทฯ
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์