ดันไทยทะยานศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ ผนึกเอกชนร่วมตรวจสุขภาพเมล็ดพันธุ์ พร้อมยกระดับใบรับรอง E-Phyto

พฤหัส ๒๘ เมษายน ๒๐๒๒ ๑๕:๐๙
กรมวิชาการเกษตร หนุนนโยบายรัฐบาลดันไทยเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ จับมือภาคเอกชนร่วมตรวจรับรองสุขภาพเมล็ดพันธุ์ส่งออกปลอดศัตรูพืช ช่วยเพิ่มช่องทางรับบริการ ลดระยะเวลา ทันต่อสถานการณ์ เสริมสร้างขีดความสามารถการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย พร้อมยกระดับใบรับรองสุขอนามัยพืชไทยเข้าระบบดิจิทัล
ดันไทยทะยานศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ ผนึกเอกชนร่วมตรวจสุขภาพเมล็ดพันธุ์ พร้อมยกระดับใบรับรอง E-Phyto

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำโครงการรับรองห้องปฏิบัติการตรวจสุขภาพเมล็ดพันธุ์ ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนด้านการตรวจสอบศัตรูพืชของเมล็ดพันธุ์เพื่อการส่งออก โดยให้ห้องปฏิบัติการภาคเอกชนที่ผ่านการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรสามารถดำเนินการตรวจศัตรูพืชเพื่อนำผลการตรวจมาใช้ประกอบการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชได้ ซึ่งช่วยเพิ่มช่องทางการให้บริการแก่ผู้ส่งออกภายใต้มาตรฐานและข้อกำหนดของกรมวิชาการเกษตร และช่วยลดระยะเวลาการตรวจสุขภาพของเมล็ดพันธุ์เพื่อการส่งออก เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างทันสถานการณ์ ซึ่งส่งผลให้สามารถบริหารจัดการการส่งออกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งเสริมนโยบายการเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ (Seed Hub) ของประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจรับรองห้องปฏิบัติการภาคเอกชนจำนวน 4 แห่ง คาดว่าเมื่อผ่านการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรแล้วห้องปฏิบัติการทั้ง 4 แห่ง จะสามารถให้บริการแก่ผู้ส่งออกได้ประมาณเดือนมิถุนายน 2565

นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรยังได้ออกแบบและพัฒนาการขอใบรับรองสุขอนามัยพืชแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Phyto) ซึ่งช่วยยกระดับใบรับรองสุขอนามัยพืช (Phytosanitary Certificate) ของไทยเข้าสู่ระบบดิจิทัล เป็นที่ยอมรับในเวทีการค้าเมล็ดพันธุ์และการกำกับดูแลการเคลื่อนย้ายเมล็ดพันธุ์ระหว่างประเทศ และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบการตรวจสอบศัตรูพืชของไทย ที่มีความชัดเจน รวดเร็ว ทันสถานการณ์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการแข่งขันทางการค้าสูง ช่วยลดขั้นตอน ภาระงานและการผ่านพิธีการศุลกากรของสินค้าไทยทั้งที่ต้นทางและประเทศปลายทาง ส่งผลให้การค้าเมล็ดพันธุ์ของไทยมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมการผลิตและการส่งออกเมล็ดพันธุ์ของประเทศไทยภายใต้นโยบายศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ กรมวิชาการเกษตรได้ร่วมกับ สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย สมาคมเมล็ดพันธุ์ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดงาน Asian Seed Congress 2022 วันที่ 14-18 พฤศจิกายน 2565 เพื่อส่งเสริมการผลิตและการส่งออกเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงของไทย เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ไทยในเวทีการค้าระหว่างประเทศ และประชาสัมพันธ์เผยแพร่ภาพลักษณ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าเมล็ดพันธุ์ระดับโลก โดยภายในงานมีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การแสดงผลงานของประเทศไทยในการส่งเสริมการผลิตและส่งออกเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงของไทย โดยกรมวิชาการเกษตร และสวทช. การแสดงสินค้าเมล็ดพันธุ์ของภาคเอกชนไทยและต่างประเทศ และการเจรจาการค้าเมล็ดพันธุ์ระหว่างคู่ค้า ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานจากอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ทั่วโลกมากกกว่า 500 ราย

ที่มา: กรมวิชาการเกษตร

ดันไทยทะยานศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ ผนึกเอกชนร่วมตรวจสุขภาพเมล็ดพันธุ์ พร้อมยกระดับใบรับรอง E-Phyto

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๑๕ มนต์เสน่ห์ฤดูหนาว: ห้วงเวลาบทกวีแห่งรสกับเมนู Winter Guestronomic Journey ณ ห้องอาหาร เอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล
๑๒:๑๗ กระทรวงพาณิชย์ประกาศขึ้นทะเบียน GI หอยนางรมท่าโสม ของดีจังหวัดตราด เนื้อแน่น อวบอ้วน รสสัมผัสนุ่ม หวานฉ่ำ สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้ชุมชนกว่า 190
๑๒:๑๑ วางใจกับทีมจัดเลี้ยงห้องประชุมสัมนาใหญ่ที่สุดในเชียงราย พร้อมเมนูตระการตาที่โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย แอนด์
๑๒:๕๖ Easy E-Receipt กับศูนย์การค้าในเครือ เอ็ม บี เค ลดหย่อนภาษี ตั้งแต่ 16 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 2568
๑๒:๑๖ MINISO เปิดตัว Flagship Store แรกในประเทศไทย สร้าง landmark ท่องเที่ยวใหม่สุดไอคอนิกในภูมิภาค
๑๒:๐๔ NDBS Thailand เชิญร่วมงานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อSMEs Fast-Growing Business with SAP Business One on HANA - วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์
๑๒:๓๕ ป๊อปมาร์ท (POP MART) ต่อยอดความสำเร็จรับปี 2025 เปิดตัวป๊อปอัพ สโตร์ สุดล้ำ ขยายตลาดสู่ต่างจังหวัดครั้งแรก! นำร่อง เซ็นทรัล พัทยา เมืองท่องเที่ยวหลักแห่งภาคตะวันออก ตั้งเป้า!!
๑๒:๕๓ เสียงสะท้อนจากโซเชียล ร้านค้าโชห่วยโอดของขายยากเพราะบุหรี่เถื่อนทะลัก
๑๑:๔๖ เปิดทิศทางสื่อไทยปี 2568: Niche คอนเทนต์และอินฟลูเอนเซอร์มาแรง สตรีมมิ่งแข่งเดือด
๑๑:๕๐ อนันดาฯ ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน ชำระคืนหุ้นกู้เต็มจำนวน 100% พร้อมดอกเบี้ย มูลค่า 2,988 ลบ. พร้อมปิดการขาย 5 โครงการรวด