"แม็คโคร ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 32 ปี ด้วยการขับเคลื่อนของทีมงานบริหารมืออาชีพ ที่มีความเข้าใจลูกค้าผู้ประกอบการอย่างลึกซึ้ง ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญอันทำให้แม็คโครเจริญเติบโตมาจนปัจจุบันนี้ และด้วยความต้องการของลูกค้าและตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป เราได้มีการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร และเปิดรับทีมงานคนรุ่นใหม่ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านดิจิทัลเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทำงานร่วมกับทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจค้าส่งค้าปลีก เพื่อให้กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง บรรลุเป้าหมายในการขับเคลื่อนองค์กร ภายใต้สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจในรูปแบบใหม่"
ที่ผ่านมาเราได้มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ใน 10 ประเทศ และได้มุ่งสนับสนุนสินค้าจากผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีออกสู่ตลาดต่างประเทศ ผ่านโครงการแพลตฟอร์มแห่งโอกาส เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เอสเอ็มอีไทยเติบโตและขยายสู่ตลาดในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสินค้าจากผู้ผลิตเอสเอ็มอีมากกว่า 100 รายการถูกนำไปวางจำหน่ายผ่านสาขาของแม็คโครใน กัมพูชา เมียนมาร์ และมีอีกหลายรายการที่กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ
นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจแม็คโคร ยังมุ่งมั่นในการทำธุรกิจที่ตอบโจทย์สังคมและสิ่งแวดล้อม เคียงข้างสังคมอย่างต่อเนื่องมาตลอด 32 ปีจนถึงปัจจุบัน ด้วยหลัก ESG ที่คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ซึ่งแม็คโครเชื่อว่าจะนำพาธุรกิจสู่การเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้าทุกกลุ่ม
ด้วยการบริหารจัดการบนพื้นฐานของความยั่งยืน ที่แม็คโครให้ความสำคัญสูงสุดทั้ง 3 ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม (E) สังคม (S) และการมีธรรมาภิบาลหรือความโปร่งใส (G) โดยได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมผ่านโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น
- โครงการ Say Hi to Bio, Say No to Foam เป็นโครงการที่ช่วยลดขยะที่เกิดจากโฟมบรรจุอาหาร ซึ่งเป็นปัญหาระดับประเทศ โดยได้ร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน ที่ทางแม็คโครได้ประกาศหยุดจำหน่ายโฟมบรรจุอาหารแล้วทุกสาขา ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ได้ช่วยลดขยะโฟมลงสู่สิ่งแวดล้อมกว่า 107 ล้านชิ้น หรือเทียบเท่ากับการที่เราช่วยรักษาต้นไม้ไว้ได้ถึง 233,791 ต้น
- โครงการ Zero Food waste to Landfill ซึ่งเป็นโครงการที่ขานรับนโยบายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในการจัดการอาหารส่วนเกินอย่างยั่งยืน โดยได้ตั้งเป้าในการลดปริมาณขยะฝังกลบให้เป็นศูนย์ในปี พ.ศ.2573
ทั้งนี้ แม็คโครยังได้ดำเนิน "โครงการมิตรแท้โชห่วย" เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการร้านค้าปลีกรายย่อย สู่การเป็น สมาร์ทโชห่วย อย่างต่อเนื่องมากว่า 12 ปี รวมทั้งได้เปิด "แม็คโคร โฮเรก้า อคาเดมี (MHA)" ขึ้นเพื่ออบรมให้ผู้ที่ทำธุรกิจร้านอาหาร และจัดเลี้ยงรายย่อยได้เข้ามาพัฒนาต่อยอดฝึกอาชีพ เสริมทักษะ โดยเฉพาะในช่วงนี้ ที่ผู้ประกอบการต้องการพัฒนาทักษะเพื่อต่อยอดธุรกิจ รองรับการฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิด-19
ที่มา: บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด