STARK เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุด ชูดอกเบี้ย 2.90 - 4.20% ขายนักลงทุนสถาบัน-รายใหญ่ เริ่มจองซื้อ 9-11 พ.ค.นี้

อังคาร ๐๓ พฤษภาคม ๒๐๒๒ ๑๔:๐๗
บมจ. สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น หรือ STARK เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุด อายุ 9 เดือน 2 ปี และ 3 ปี ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ชูดอกเบี้ย 2.90 - 4.20% ดีเดย์จองซื้อวันที่ 9-11 พฤษภาคมนี้ ผ่าน 6 สถาบันการเงิน ทริสเรทติ้งจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ "BBB+" แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" พร้อมเดินหน้าพัฒนาสร้างการเติบโตต่อองค์กรอย่างยั่งยืนผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก
STARK เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุด ชูดอกเบี้ย 2.90 - 4.20% ขายนักลงทุนสถาบัน-รายใหญ่ เริ่มจองซื้อ 9-11 พ.ค.นี้

นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ผู้นำด้านการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า STARK เตรียมพร้อมสำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2565 โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 3 ชุด แบ่งเป็น

หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 9 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.90 -3.10% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้

หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2567 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.60 -3.80% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้

หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00 -4.20% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้

สำหรับหุ้นกู้ STARK เตรียมเปิดให้ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ จองซื้อระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคม 2565 กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท (สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่) ทั้งนี้ STARK ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ที่ระดับ "BBB+" แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" โดยอันดับความน่าเชื่อถือสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของบริษัทในธุรกิจผลิตสายไฟฟ้าในทวีปเอเชีย ทั้งนี้ หุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดจะเสนอขายผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 6 ราย ได้แก่

1) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-888-8888 กด 819 โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่านhttps://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)

2) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร. 1428 กด#4

3) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) (เสนอขายเฉพาะต่อผู้ลงทุนสถาบันเท่านั้น)

4) บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร 02-658-5050

5) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร 02-009-8352-56

6) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอเชีย เวลท์ จำกัด โทร 02-207-2124

สำหรับวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ STARK จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ไปใช้เพื่อชำระคืนสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ และชำระคืนตั๋วแลกเงินและหุ้นกู้ของกลุ่มบริษัท พร้อมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจต่อไป

"มั่นใจว่าการเสนอขายหุ้นกู้ของ STARK ครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี ซึ่งผู้ลงทุนยังมีความต้องการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นกู้อย่างต่อเนื่อง ด้วยผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากจากสถาบันการเงินเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยเฉพาะการลงทุนในธุรกิจที่มั่นคง และแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำด้านการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของ STARK มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการกำไรเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพฐานทุน และผลักดันการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในระยะยาว" นายประกรณ์ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STARK กล่าวเพิ่มเติมว่า STARK ยังคงสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจโดยมุ่งมั่นพัฒนาสร้างการเติบโตต่อองค์กรอย่างยั่งยืนในอนาคตผ่านกลยุทธ์ต่างๆ ได้แก่ 1) การเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง มุ่งเน้นการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล แรงดันไฟฟ้าระดับปานกลางจนถึงระดับสูงพิเศษ และสายไฟสำหรับระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ แผงโซลาร์เซลล์บนโครงสร้างที่ลอยน้ำ ตลอดจนการพัฒนาสายเคเบิ้ลใต้น้ำ ระบบสายส่งกระแสตรงแรงดันสูง ที่ได้มาตรฐานระดับโลก เพื่อรองรับการเติบโตของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และเพิ่มความหลากหลายของแบรนด์ 2) การเพิ่มการเติบโตของรายได้ รวมถึงการขยายและเจาะตลาดใหม่ๆ ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และประเทศอื่นๆ 3) การเพิ่มการแข่งขันในด้านต้นทุน สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพ โดยการรวมคำสั่งซื้อวัตถุดิบของประเทศไทยและประเทศเวียดนามเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองและลดต้นทุนของโลหะ และการขยายระยะเวลาการชำระหนี้การค้า ตลอดจนนโยบายการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เพิ่มความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น 4) การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายส่วนทุน (capex) อยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นโดยกำลังการผลิตที่มีอยู่รองรับการเพิ่มขึ้นของการผลิตได้อีกเกือบ 2 เท่า และ 5) การเพิ่มความเข้มแข็งของสถานะทางการเงินของงบดุล การใช้เงินทุนหมุนเวียน ควบคุมต้นทุน และค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และการบริหารจัดการร่วมกันของกลุ่มบริษัทอย่างมีระบบ (Integrated Supply Chain Management)

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version