นายศิวนัส ยามดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสชัวร์ เทคโนโลยี จำกัด (Assure Technology Co., Ltd.) บริษัทผู้พัฒนาระบบซอฟต์แวร์เกี่ยวกับบล็อกเชน (Blockchain), คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) และฟินเทค (FinTech) หนึ่งในอดีตผู้ก่อตั้งกระดานเทรดสินทรัพย์ "Coin Asset" เปิดเผย ประกาศความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่อย่างเป็นทางการร่วมกับกลุ่ม บริษัท บอสเวลล์ ดิจิทัล โฮลดิ้ง จำกัด (Boswell Digital Holding Co., Ltd.) เนื่องจากมองว่าธุรกิจ Blockchain ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก และการร่วมมือกันจะช่วยเสริมทัพที่มั่นคงและยั่งยืน ประกอบกับทำให้การบริการและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ครบวงจรมากยิ่งขึ้น จะช่วยตอบโจทย์การวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ การวางแผนด้านการตลาด และรวมไปถึงการพัฒนาระบบต่าง ๆ เพื่อต่อยอดและสร้างสรรค์ไอเดียให้กับนักลงทุนหรือผู้ที่กำลังจะเข้าสู่ธุรกิจทางด้านบล็อกเชน (Blockchain) หรือสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ให้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถยืนหยัดอยู่บนโลกของ Blockchain Technology นอกจากนี้ ข้อดีของการร่วมมือครั้งนี้ คือ พาร์ทเนอร์ที่โดดเด่นในวงการ
"เราเป็นผู้พัฒนาวางแผนระบบบล็อกเชน และเรามองว่าโครงสร้างของไทยยังมีโอกาสอีกมาก ซึ่งเราเน้นเป็นผู้ให้บริการที่ครบวงจร นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาต่อยอด โดยไม่ได้จำกัดเฉพาะในประเทศ แต่เป็นการก้าวไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย" นายศิวนัส กล่าว
นายศิวนัส กล่าวเสริมว่า ผลิตภัณฑ์ของเรามีจุดเด่นที่หลากหลายและครอบคลุมทุกความต้องการของตลาด โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ดังนี้ 1. PEER จะดำเนินธุรกิจในแพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน ภายใต้ชื่อว่า "PEER.Money" (เพียร์ดอทมันนี่) "แพลตฟอร์มรับจำนำคริปโทเคอร์เรนซี" ด้วยสินเชื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ผ่านแอปพลิเคชัน PEER.Money โดยเป็นแพลทฟอร์ม Non-bank ที่นำเอาเทคโนโลยีและคริปโทเคอร์เรนซี มาเป็นเครื่องมือหลักในการทำธุรกิจสินเชื่อ โดยเราเป็นเจ้าแรกที่สามารถทำให้ผู้ที่ถือสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำรองได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนตุลาคม 2565 นี้
สำหรับ 2. Neko นั้น เรามุ่งเน้นที่การพัฒนาแนวคิดธุรกิจสตาร์ทอัพในอุตสาหกรรมบล็อกเชน โดยการให้เงินทุนและการเข้าถึงแก่นักลงทุน เกณฑ์ในการเลือกธุรกิจที่จะทำการร่วมงานของเรานั้นเรียบง่าย เราเลือกธุรกิจที่มีศักยภาพสูง หรือโปรเจกต์ที่มีความเป็นไปได้ที่น่าสนใจ และมีความเป็นไปได้สูงที่จะนำสิ่งใหม่ ๆ ที่จะมาแทนที่เทคโนโลยีดั้งเดิมโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ในขณะที่ยังคงอัตราความสำเร็จให้สูงที่สุดในอุตสาหกรรมนี้เช่น ในโปรเจกต์ Metaverse, Gamefi, Defi, NFT เป็นต้น
และ 3. VCEX ดำเนินธุรกิจกระดานแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Exchange) ที่ทางเราให้คำปรึกษาและร่วมพัฒนา และอนาคตเรามีแผนจับมือกับพันธมิตร ร่วมกันพัฒนากระดานแลกเปลี่ยน รวมถึงการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากสำนักงาน ก.ล.ต และองค์กรในต่างประเทศ
เรามีทีมที่ปรึกษาด้านธุรกิจบล็อคเชน และที่ปรึกษาทางกฎหมายในการยื่นขอใบอนุญาติและธุรกิจที่เกี่ยวกับบล็อกเชน ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นออกมาอีกมากมาย
ที่มา: บียอนด์ โซลูชันส์