นอกจากเพื่อปฏิบัติตามเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของธนาคารแล้ว การออกตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อมครั้งแรกของ HLB ยังมีเป้าหมายเพื่อนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนไปลงทุนใหม่ หรือชำระคืนหนี้เดิม (รีไฟแนนซ์) ในสินทรัพย์ โครงการ หรือบริษัทที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดในกรอบตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Bond Framework) ของ HLB
คุณโดมินิก ฟูดา (Domenic Fuda) กรรมการผู้จัดการและซีอีโอกลุ่ม HLB เปิดเผยว่า การออกตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อมมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนความพยายามของธนาคารในการกระตุ้นตลาดให้ยอมรับการเติบโตอย่างยั่งยืนมากขึ้น ด้วยการจัดหาเงินทุนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ("ESG")
"การออกตราสารหนี้ครั้งนี้ตอกย้ำพันธกิจของเราในการระดมทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์การระดมทุนเพื่อความยั่งยืน นี่ถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มการปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจและลูกค้าบุคคลที่ต้องการลงทุนในโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติที่ชัดเจนตามกรอบตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม เราหวังว่าการดำเนินการของเราในครั้งนี้จะช่วยปลดล็อกแหล่งเงินทุนที่จำเป็นสำหรับโครงการที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ ทั้งยังสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของมาเลเซียไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น" คุณฟูดากล่าว
กรอบตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อมจัดทำขึ้นภายใต้ข้อกำหนดด้านความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูลตามมาตรฐานการออกพันธบัตรอาเซียนกรีนบอนด์ (ASEAN Green Bond Standard) และตามหลักการตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Bond Principles) ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ซึ่งออกโดยสมาคมตลาดทุนระหว่างประเทศ (International Capital Market Association) นอกจากนี้ กรอบตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อมยังได้รับการทบทวนโดยบริษัท อาร์เอเอ็ม ซัสเทนอะบิลิตี้ จำกัด (RAM Sustainability Sdn Bhd) ซึ่งจัดอันดับผลประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Benefit หรือ "EB") ให้กับสินทรัพย์หรือโครงการที่มีคุณสมบัติตามกรอบตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงการจัดอันดับ EB สูงสุดที่ระดับ Tier-1 ให้กับสินทรัพย์/โครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน (พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และน้ำ) ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน อาคารสีเขียว และรถยนต์ไฟฟ้า
ตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ไม่มีอายุ (perpetual) และไถ่ถอนก่อนกำหนดไม่ได้ (non-callable) เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยมีส่วนต่างชดเชยความเสี่ยง (spread) อยู่ที่ 72.2 bps ซึ่งสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลมาเลเซียอายุ 5 ปี ซึ่งมีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 4.45% ต่อปีในช่วง 5 ปีแรก ตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อมได้รับการจัดอันดับ A1 โดยบริษัท อาร์เอเอ็ม ซัสเทนอะบิลิตี้ จำกัด
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hlb.com.my/en/personal-banking/about-us/investor-relations/capital-and-debt-securities.html