ภาพถ่ายชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดการแต่งกายแบบเรียบง่ายและไม่เป็นทางการของคนรุ่นใหม่ โดยนำเครื่องประดับคริสตัลที่สวยโดดเด่นมาประดับตกแต่งเพื่อเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดใจ คริสตัลของ สวารอฟสกี้ จึงไม่ได้เหมาะสำหรับชุดราตรีสุดหรูเท่านั้น แต่ยังสามารถสวมใส่เพื่อให้เข้ากับลุคแบบร่าเริงสดใสได้เช่นกัน ซึ่งการปรับเปลี่ยนสไตล์ให้เข้ากับการแต่งกายแบบลำลองที่ดูร่วมสมัยนี้ คริสตัลจึงกลายเป็นเครื่องประดับในชีวิตประจำวันเพื่อแสดงถึงความเป็นตัวเอง ผ่านภาพถ่ายของ เบลล่า ฮาดิด ทั้ง 6 แบบ ที่ใช้คริสตัล 6 สีสันเป็นตัวแทนภาพถ่ายแต่ละภาพ อันเป็นสัญลักษณ์หน้าต่างที่เปิดสู่โลกของ สวารอฟสกี้ โดยใช้กรอบคริสตัลสีเจียระไนทรงแปดเหลี่ยมตามโลโก้ บรรจุภัณฑ์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ Millenia ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
Giovanna Engelbert ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของสวารอฟสกี้ กล่าวว่า "เบลล่า ฮาดิด แสดงถึงทัศนคติเฉพาะบุคคลที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ของคนรุ่นใหม่ทั่วโลก เธอมีบุคลิกในหลายแง่มุม ซึ่งแหวกกฎเกณฑ์และมาตรฐานแบบเดิม ๆ และเธอสามารถเปลี่ยนจากลุคแบบสปอร์ตเป็นลุคสาวเจ้าเสน่ห์ได้อย่างลงตัว โดยยังเป็น เบลล่า คนเดิมที่เปี่ยมด้วยพลังและความมั่นใจ ด้วยบุคลิกดังกล่าวเธอจึงสามารถถ่ายทอดค่านิยมของ สวารอฟสกี้ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ปัจจุบันคริสตัลเป็นส่วนหนึ่งของการแต่งกายในชีวิตประจำวันที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ จึงช่วยเน้นสไตล์และรสนิยมส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นแบบลำลองหรือแบบหรูหราให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เบลล่า คือหญิงสาวที่เป็นตัวแทนของความคิดจิตใจเช่นนี้"
"ฉันคุ้นเคยกับ สวารอฟสกี้ เป็นอย่างมากอยู่แล้ว แบรนด์นี้มีลักษณะที่โดดเด่นและงดงามไร้กาลเวลาอย่างแท้จริง ฉันชื่นชอบคอลเลคชันใหม่และสิ่งที่แบรนด์กำลังทำอยู่ โดยเฉพาะผลงานสร้างสรรค์ตามวิสัยทัศน์ของ Giovanna ในช่วงสองปีที่ผ่านมา และฉันคิดว่า สวารอฟสกี้ เป็นแบรนด์เครื่องประดับร่วมสมัยสำหรับอนาคตอย่างแท้จริง เพราะเครื่องประดับคือการแสดงออกและการชื่นชมลักษณะเฉพาะบุคคล ซึ่ง สวารอฟสกี้ ผสานแนวคิดเรื่องความเจิดจรัสแบบทันสมัยผ่านการให้ความสำคัญกับคนทุกกลุ่ม ซึ่งฉันชื่นชมและชอบสิ่งนี้อย่างมาก" เบลล่า ฮาดิด กล่าว
สีสันและคอลเลคชันอันโดดเด่น
คริสตัลของ สวารอฟสกี้ ประกอบด้วยเหลี่ยมมุมและรูปลักษณ์หลากหลายรูปแบบที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่าย ตัวคริสตัลใสมีแกนกลางที่ประกอบด้วยสีสันของสายรุ้ง ซึ่งจะปรากฏขึ้นเมื่อเกิดการหักเหแสงคล้ายกับปริซึม โดยแคมเปญของ สวารอฟสกี้ นำลักษณะดังกล่าวมาใช้เพื่อสะท้อนถึงลักษณะที่สร้างสรรค์และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ของคริสตัล ธีมสีแต่ละแบบที่คัดสรรสำหรับภาพถ่ายของ เบลล่า ฮาดิด นำมาจากโทนสีภายในของคริสตัล เพื่อสะท้อนถึงบุคลิกและลุคต่าง ๆ ของนางแบบ ในขณะเดียวกัน ภาพดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงเหลี่ยมมุมของคริสตัล สวารอฟสกี้ ตลอดจนสีสัน และคอลเลคชันของแบรนด์อีกด้วย
สีเหลือง: เบลล่าในลุคสปอร์ต เน้นให้เห็นถึงความมีพลังและเปี่ยมด้วยชีวิตชีวาของสีเหลือง โดยใช้สไตล์ที่ให้ความรู้สึกร่าเริงและมีความหวังของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Lucent ซึ่งประกอบด้วยคริสตัลเจียระไนทั้งชิ้น จึงเปล่งประกายงดงามบริสุทธิ์ราวกับแสงอาทิตย์ ชิ้นงานที่ดูสดชื่นและโดดเด่นนี้ใช้สีสันที่ให้ความเจิดจ้ามากที่สุด พร้อมด้วยต่างหู Matrix และสร้อยคอ Harmonia, Millenia และ Ortyx ที่ เบลล่า สวมใส่เพื่อเติมเต็มความสดใสถึงขีดสุด
สีชมพู: เบลล่าในลุคสวยหวาน ใช้โทนสีชมพูที่ดูสดใสน่ารัก พร้อมโทนสีรองอันทรงพลัง สะท้อนให้เห็นความอ่อนหวานแต่แฝงด้วยความแข็งแกร่ง เบลล่า สวมต่างหู Lucent แบบห่วง ซึ่งประกอบด้วยวงแหวนคริสตัลทรงแปดเหลี่ยมที่ดูโดดเด่น ออกแบบมาเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับชิ้นสำคัญสำหรับการแต่งกายในลุคทันสมัย และต่างหูแบบ Cuff ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Lucent พร้อมด้วยสร้อยคอ Millenia และ Gema และต่างหูเม็ดเดี่ยว Orbita เพื่อลุคที่ดูซุกซนยิ่งขึ้น
สีเขียว: เบลล่าในลุคสวยเก๋ เป็นตัวอย่างของการสวมใส่เครื่องประดับคริสตัลในสไตล์แบบลำลอง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากลักษณะความเป็นธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกสบายไร้กังวลของสีเขียว อันเป็นสัญลักษณ์ของการเติบโตและการพัฒนา จึงสื่อถึงทัศนคติและค่านิยมของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี สร้อยคอและสร้อยข้อมือสีเขียว Millenia เน้นความโดดเด่นด้วยสายสร้อยที่สวมซ้อนเข้าด้วยกัน ที่เข้าคู่กับเสื้อฮู้ดตัวสั้น พร้อมสร้อยคอ Millenia สองเส้นคล้องต่อกันให้ดูเป็นสร้อยคอ Drop Chain แบบยาว แสดงถึงการออกแบบที่สามารถปรับเปลี่ยนลุคได้ตามต้องการ เสริมด้วยต่างหู Gema สร้อยข้อมือ Lucent และต่างหูหนีบ Millenia เพิ่มเติม
สีฟ้า: เบลล่าในลุคโบฮีเมียน เน้นลักษณะที่ดูสงบและผ่อนคลายของสีฟ้า ด้วยสไตล์การแต่งตัวตามแนวคิดแบบลำลอง สบาย ๆ และไร้กังวล อีกทั้งยังนำการแต่งตัวรูปแบบต่าง ๆ มาผสมผสานเข้าด้วยกัน และเติมเสน่ห์อันเจิดจรัสแบบสบาย ๆ ในแบบฉบับของเบลล่า จึงดูงดงามมีสไตล์แบบสวยเก๋ เบลล่า ฮาดิด ใช้แนวคิดการสวมเครื่องประดับซ้อนกัน โดยสวมสร้อยข้อมือ Millenia ที่ดูงดงามเหนือกาลเวลาแต่สามารถปรับให้เข้ากับหลายรูปแบบ พร้อมสร้อยคอ ต่างหู Lucent แบบห่วง และแหวน Lucent ที่เข้าชุดกันอีกด้วย
สีเมทัลลิก: เบลล่าในลุคเจิดจ้า ดูมีเสน่ห์แบบร่าเริงซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของ สวารอฟสกี้ โดยใช้สีเมทัลลิกเงางามและคริสตัลที่ฝังแบบพาเว่ เพื่อแต่งให้เป็นลุคที่ให้ความงดงาม ตระการตา และเย้ายวนใจ ชวนให้นึกถึงวันหยุดที่อาบด้วยแสงอาทิตย์เจิดจ้าจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ Dextera โดยมีจุดเด่นอยู่ที่โลหะรูปทรงเรขาคณิตที่ให้ความรู้สึกแข็งแรงแบบผู้ชาย ผสมผสานกับคริสตัลเจียระไนอย่างแม่นยำและฝังแบบพาเว่ นอกจากนี้ เบลล่า ฮาดิด ยังสวมใส่เครื่องประดับซ้อนกันเพื่อให้ความรู้สึกเบาสบายแบบฤดูร้อน ประกอบไปด้วยสร้อยคอและสร้อยข้อมือ Millenia สร้อยข้อมือ Dextera และแหวน Numina
สีขาวใส: เบลล่าในลุคทรงเสน่ห์ ให้ความงดงามสำหรับงานราตรีในรูปแบบแปลกใหม่ด้วยเสน่ห์แบบร่าเริงสดใส เบลล่า นำเครื่องประดับคริสตัลใสสุดคลาสสิค ซึ่งสื่อถึงแนวคิดเรื่องความหรูหราแบบยุคเก่ามาปรับใช้กับการแต่งกายในรูปแบบใหม่ ด้วยลุคที่ดูแน่วแน่และเปี่ยมด้วยความมั่นใจสำหรับโอกาสพิเศษ โดยใช้สร้อยคอและโชคเกอร์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Harmonia ที่ให้ความหรูหรา ซึ่งชิ้นงานเหล่านี้ประกอบด้วยคริสตัลขนาดใหญ่เจียระไนทรง Cushion แบบห้อยระย้า ให้ความรู้สึกราวกับว่าคริสตัลกำลังลอยตัวอยู่อย่างงดงาม
เกี่ยวกับสวารอฟสกี้
สวารอฟสกี้โฉมใหม่คือ Wonderlab ที่เวทมนตร์กับวิทยาศาสตร์เดินทางมาบรรจบกัน
สวารอฟสกี้หลอมรวมทุกส่วนขององค์กรเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้แนวคิดอันน่าหลงใหลและนำเสนอโลกใบใหม่ของงานฝีมือคริสตัลที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ สวารอฟสกี้ก่อตั้งในปี 1895 และเป็นผู้ออกแบบ ผลิต และจำหน่ายคริสตัลคุณภาพดีที่สุดในโลก อัญมณีแท้ เพชรสังเคราะห์ของสวารอฟสกี้และเซอร์โคเนีย เครื่องประดับและแอคเซสเซอรี่ รวมถึงชิ้นงานคริสตัลและชิ้นงานประดับตกแต่งบ้าน Swarovski Crystal Business และบริษัทลูก ได้แก่ Swarovski Optik (ทัศนูปกรณ์) และ Tyrolit (สารขัด) รวมกันเป็น Swarovski Group
การสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนและโลกใบนี้อย่างมีความรับผิดชอบเป็นส่วนหนึ่งของมรดกตกทอดของสวารอฟสกี้มาโดยตลอด และปัจจุบันยังคงเห็นได้ชัดเจนจากการส่งเสริมความยั่งยืนผ่านโครงการและมูลนิธิให้ความรู้ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานกับเยาวชน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมพลังของมนุษย์และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคม
ที่มา: สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์