นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยถึง ผลประกอบการ ในไตรมาส 1/2565 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2565) ของบริษัทฯ ว่า มีรายได้จากการขาย 1,442.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,287.8 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 103.9 ล้านบาท ลดลง 17.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการลดลง 14.5% แต่ถ้าไม่นับรวมรายการพิเศษที่เกิดจากการบันทึกค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จากการรับเงินคืนเงินลงทุนจากบริษัท พีที อิชิตัน อินโดนีเซีย ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 128.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 121.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในอัตรา 5.4% จากปีก่อน
โดยสาเหตุการเติบโตของรายได้ มาจากยอดขายในประเทศที่เติบโต ชูจุดแข็ง จากการขยายตลาดค้าปลีกผ่าน Traditional Trade ได้ดีต่อเนื่อง รวมทั้ง การขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ และขยายธุรกิจ OEM เสริมทัพ ด้านบริษัทร่วม อิชิตัน อินโดนีเซีย โดดเด่น สามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาในไตรมาส 1 ปีนี้ ที่ 30 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1 ของปีก่อนอยู่ที่ 13.6 ล้านบาท จากการกระจายสินค้าได้ดียิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์กลุ่มชาไทยที่สามารถเปิดตลาดอินโดนีเซียได้สำเร็จ และเป็นไฮไลท์การเติบโตต่อเนื่องมายังไตรมาสนี้ จึงสามารถใช้กระแสเงินสดของบริษัทร่วมในการเดินหน้าขยายธุรกิจ และคืนเงินลงทุนกลับมาให้อิชิตัน เพิ่มสถานะการเงินให้แข็งแกร่งขึ้น
ด้วยโอกาสของอิชิตัน อินโดนีเซียที่นับเป็นเทรนด์ขาขึ้นต่อเนื่อง จึงส่งผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่มกาแฟโคลด์บริว เข้ามาบุกตลาดเพิ่มเติมในไตรมาส 2/2565 นี้
อย่างไรก็ดี สำหรับปี 2565 อิชิตัน ย้ำการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ "3N" ประกอบด้วย New Product, New Market, New Business ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนผลประกอบการให้เติบโตในอนาคต และมั่นใจว่า รายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้แตะระดับ 6,500 ล้านบาท
ขณะที่ ทิศทางไตรมาส 2/2565 จะสดใส จากการมุ่งเน้นทำการตลาดในรสชาติยอดนิยม จัดจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม หรือ Traditional Trade ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง ผ่านการจัดทำแคมเปญใหม่ๆ ได้แก่ การสะสมลังอิชิตัน แลกรับ อิชิตันรสน้ำผึ้งผสมมะนาว ฟรี 1 ลัง เริ่มแคมเปญตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึงกรกฎาคมนี้
นอกจากนี้ เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงไตรมาส 2/2565 และการ Collaboration กับบริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ระดับโลก ออกสินค้าร่วมกันในเดือนพฤษภาคมนี้ รวมทั้งการเปิดตัว Shizuoka x Muruko การขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดเครื่องดื่มอัดก๊าซ (CSD) การคืนสู่เวทีของแบรนด์ "ไบเล่" (Bireley's) และภาพรวมกลุ่มเครื่องดื่มวิตามินเพื่อสุขภาพ ที่นับเป็นเทรนด์ของตลาดเครื่องดื่มในอนาคต
ด้านธุรกิจส่งออกเริ่มฟื้นตัว ธุรกิจ OEM ได้ขยายฐานลูกค้าเพิ่มอีก 2 รายจากเดิม เตรียมส่งออกสินค้าใหม่ภายในไตรมาสที่ 2 นี้ สนับสนุนให้อัตราการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น เป็นอีกกลยุทธ์ในการเพิ่มอัตรากำไรที่สูงขึ้นในอนาคต จากการควบคุมต้นทุนต่อหน่วยผลิตให้มีประสิทธิภาพ
"ปี 2565 เป็นปีที่ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยสถานการณ์โลกทั้งสงครามยูเครน รัสเซีย และภาพรวมเศรษฐกิจโลก ยอมรับว่าต้นทุนในหลายส่วนปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่บริษัทฯยังรับผลดีในการลงทุนที่ประเทศอินโดนีเซียที่มีการเติบโตทั้งรายได้ กำไร อย่างต่อเนื่อง จากความสำเร็จของการทำตลาดชาไทย และคาดว่าการรุกตลาดกาแฟโคลด์บริวจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของตลาดอินโดนีเซียในปีนี้เพิ่มเติมได้" นายตัน กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: ไออาร์ พลัส