นายเพชร นันทวิสัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 1 ของปี 2565 มีรายได้รวม 10,589.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.01% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 618.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.84% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนโดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย หนุนให้ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวสูงขึ้นทั้งราคาหมู และราคาไก่
สำหรับรายได้จากธุรกิจไก่ในไตรมาส 1 ของปี 2565 มีจำนวน 5,031.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.48% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4,042.30 ล้านบาท ซึ่งราคาไก่เฉลี่ยในไตรมาส 1 ของปี 2565 เท่ากับ 52.58 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 39.69% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน
ส่วนรายได้จากธุรกิจสุกรในไตรมาส 1 ของปี 2565 มีจำนวน 2,597.25 ล้านบาท ซึ่งราคาสุกรเฉลี่ยในไตรมาส 1 ของปี 2565 เท่ากับ 89.28 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 9.94% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่รายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์ในไตรมาส 1 ปี 2565 มีจำนวน 1,702.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.17% จากงวดเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 1,517.33 ล้านบาท
"มั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มีแนวโน้มที่จะเร่งตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องทั้งปีนี้ คาดรายได้รวมในปี 2565 จะเติบโตประมาณ 10-15% เทียบปีที่ผ่านมา จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย อีกทั้งยังได้รับปัจจัยหนุนจากราคาขายหมู และไก่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ตามดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น"
เขากล่าวต่อถึงแผนการลงทุนในปี 2565 ว่าบริษัทฯได้ตั้งงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 3.5 พันล้านบาท เพื่อลงทุนในธุรกิจสุกรทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม ประกอบกับยังมีแผนขยายฐานรายย่อยผ่านการขยายสาขา ร้านไทย ฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต เพื่อช่วยกระจายผลิตภัณฑ์ของTFG ให้กับลูกค้ารายย่อยโดยตรง สามารถส่งต่อสินค้าคุณภาพในราคาเหมาะสม โดย ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2565 มีจำนวน 113 สาขา มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการประมาณ 40,000 คน/วัน
ล่าสุด บริษัทฯได้ตั้ง 2 บริษัทย่อยแห่งใหม่ "ไทยฟู้ดส์ รีนิวเอเบิล" ดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนเพื่อเป็นกระแสไฟฟ้าใช้ภายในโรงงาน เพื่อลดต้นทุน และ "มาย เพ็ท" ดำเนินธุรกิจสัตว์เลี้ยงครบวงจร เพื่อกระจายการลงทุนและเพิ่มแหล่งที่มารายได้ใหม่ สนุบสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
ที่มา: ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป