THIP บุ๊คงบ Q1/65 สวย ทำกำไร 118.8 ลบ. โกยยอดขายกว่า 1,109 ลบ. ตั้งธงรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% เผยดีมานด์ตลาดตปท.พุ่ง หลังโควิดคลี่คลาย

อังคาร ๑๗ พฤษภาคม ๒๐๒๒ ๐๙:๑๓
"บมจ.ทานตะวันอุตสาหกรรม หรือ THIP" ประกาศงบไตรมาส 1/65 มีผลกำไร 118.8 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 45.2% กวาดยอดขาย 1,109.3 ล้านบาท เติบโต 35.9% ตามคำสั่งซื้อ ที่เพิ่มขึ้น จากความต้องการของลูกค้าในตลาดยุโรป อเมริกา และเอเชีย รวมทั้งตลาดในประเทศฟื้นตัว หลังโควิดคลี่คลาย โดยวางเป้ารายได้ในปี 65 โตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน จากดีมานด์ถุงซิปล็อคที่เพิ่มขึ้นในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ รวมถึงกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และเน้นการตลาดออนไลน์สินค้า Own Brand พร้อมเดินหน้าขยายกำลังการผลิตเพิ่ม
THIP บุ๊คงบ Q1/65 สวย ทำกำไร 118.8 ลบ. โกยยอดขายกว่า 1,109 ลบ. ตั้งธงรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% เผยดีมานด์ตลาดตปท.พุ่ง หลังโควิดคลี่คลาย

นางพจนารถ ปริญภัทร์ภากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ THIP ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์คุณภาพระดับสากล เปิดเผยว่าผลประกอบการของบริษัทในงวดไตรมาส 1/2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 118.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 45.2% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 81.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.32 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.41 บาทต่อหุ้น ขณะที่รายได้รวมจากการขายอยู่ที่ 1,109 .3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 293 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 35.9% จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวมจากการขาย 816.3 ล้านบาท

รายได้ส่วนใหญ่เติบโตขึ้นจากความต้องการของลูกค้าในตลาดยุโรป อเมริกา และเอเชีย โดยการขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 269.3 ล้านบาท หรือ 37.8% ส่วนตลาดในประเทศฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ผ่อนคลายลง โดยมีการเติบโตของยอดขายในประเทศ 23.7 ล้านบาท หรือ 22.7% ผลิตภัณฑ์ที่เติบโตได้ดีมาจากทั้งกลุ่มถุงและกลุ่มหลอดดูดเครื่องดื่ม

สำหรับแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2 คาดว่ายังคงมีการเติบโตสำหรับตลาดบรรจุภัณฑ์ โดยบริษัทได้มีการวางแผนทำการตลาดในการหาลูกค้าใหม่ นอกจากนั้นยังเพิ่มช่องทางการขายและส่งออกให้มีความหลากหลายมากขึ้น เอื้อธุรกิจเติบโตในระยะยาว พร้อมเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ SUN ให้เป็นที่รู้จักในช่องทางออนไลน์มากขึ้น

บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2565 ไว้ไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,797 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตจากปริมาณความต้องการถุงซิปล็อคที่เพิ่มขึ้นในตลาดยุโรปและสหรัฐ รวมถึงกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ยังคงเป็นตลาดหลักรวมถึงบริษัทมีนโยบายที่จะเน้นสินค้า Own Brand และขยายไปยังตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วราว 80-85% ซึ่งคาดว่าอุตสาหกรรมแพคเกจจิ้งจะสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 3% ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ราว 15-20% และคาดว่าในปีนี้อุตสาหกรรมแพคเกจจิ้งจะสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% โดยอุตสาหกรรมแพคเกจจิ้งในปีนี้ยังคงมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบลดลง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ราคาเม็ดพลาสติกซึ่งถือเป็นวัตถุดิบหลักของบริษัทที่ใช้ในกระบวนการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเบื้องต้นในระยะสั้นอาจมีผลกระทบต่อต้นทุนในการผลิตของบริษัท ซึ่งบริษัทสามารถปรับราคาขายให้เหมาะสมกับต้นทุนที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

ที่มา: ไออาร์ พลัส

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version