แบรนด์ alt. หรือ อัลท์ นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ใช้โปรตีนจากพืช ทดแทนการใช้เนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากผลวิจัยพบว่ากรรมวิธีการผลิตอาหาร Plant-based สามารถช่วยลดโลกร้อนจากการทำปศุสัตว์ได้ถึง 30% นอกจากนี้ เอ็นอาร์พีที ยังได้พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชอย่างต่อเนื่อง โดยนำเทคโนโลยีมาพัฒนารสชาติ เนื้อสัมผัส และรูปลักษณ์ให้อร่อยถูกปากคนรุ่นใหม่ ไม่ต่างจากเนื้อสัตว์ มีโปรตีนสูงแต่ไขมันต่ำ ถูกหลักโภชนาการ สามารถรับประทานได้ทุกวัน
ดร. บุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด กล่าวว่า เอ็นอาร์พีที บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด และบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจอาหารโปรตีนจากพืช โดยตั้งใจให้ร้าน alt.Eatery เป็นศูนย์กลางของอาหารแห่งอนาคตแห่งแรกของประเทศไทย สอดคล้องกับแนวคิดการคำนึงถึงการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้คนไทยมีทางเลือกในการบริโภคอาหาร และช่วยลดการเกิดโรค ซึ่งโครงการ "alt. Eatery" เป็นการเน้นย้ำเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจ Life Science หรือวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต ของอินโนบิก (เอเซีย) ด้วยการนำการวิจัยและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้พัฒนาผลผลิตทางการเกษตรของไทยเพื่อเป็นวัตถุดิบให้กับอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต เพิ่มโอกาสและช่องทางการจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าสู่ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังเติบโตและมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นในอนาคต ซึ่งในปัจจุบันบริษัทชั้นนำในประเทศไทยก็เริ่มหันมาให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืนในการดำเนินธุกิจ อย่าง "แสนสิริ" ที่วันนี้ได้มาร่วมกันสร้างคอมมูนิตี้แห่งนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย และสังคมที่ยั่งยืน
นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) (NRF) และประธานกรรมการบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด กล่าวว่า โนฟ ฟู้ดส์ มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช ซึ่งนอกจากจะคำนึงถึงเรื่องรสชาติที่ผู้บริโภคจะได้รับ บริษัทยังคำนึงถึงเรื่องของการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากธุรกิจอาหารมีสัดส่วน 1 ใน 3 ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วโลก ดังนั้น บริษัทจึงให้ความใส่ใจกระบวนการผลิต โดยเริ่มต้นจากการกำหนดรูปแบบธุรกิจที่มุ่งสู่การลดคาร์บอน ส่งเสริมการบริโภคโปรตีนจากพืชให้มากขึ้น ทั้งนี้ การผลิตอาหาร Plant-based จะสามารถช่วยลดปัญหาโลกร้อนที่สืบเนื่องจากการทำปศุสัตว์ได้มากถึง 30%
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วิกฤตโลกร้อนถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกคนต้องร่วมกันหยุดยั้ง แสนสิริจึงให้ความสำคัญเรื่องของความยั่งยืนใน ทุกกระบวนการและทุกมิติของการทำธุรกิจ โดยครั้งนี้เป็นความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกันในด้านความยั่งยืน คือ เอ็นอาร์พีที เพื่อพัฒนาร้าน alt.Eatery บนพื้นที่ดินสุขุมวิท 51 ของแสนสิริ พร้อมเชิญชวนคนเมืองร่วมใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับโลก นอกจากนั้น แสนสิริยังนำแนวคิดด้าน waste to WORTH ขององค์กรมาใช้จริงที่นี่เพื่อให้คนเมืองรู้จักการแยกขยะอย่างถูกวิธี ตลอดจนยังนำพันธมิตรด้านพลังงานสะอาดของแสนสิริ อาทิ ชาร์จ (SHARGE) และ ไอออน (ION ) เข้ามาร่วมเสริมแกร่งด้วยการติดตั้งจุดชาร์จรถไฟฟ้าความเร็วสูงและโซลาร์รูฟแห่งอนาคต ณ alt.Eatery อีกด้วย โดยความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการสานต่อวิสัยทัศน์ของ แสนสิริ ซึ่งเป็นอสังหาฯรายแรกในไทยที่วางเป้าหมายเป็นองค์กรที่ปล่อย ก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ และเป็นส่วนหนึ่งในการกู้วิกฤต Global Warming เพื่อโลกและเพื่อเราทุกคน
แบรนด์ alt. มุ่งเน้นที่จะมอบประสบการณ์ทางเลือกให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพและรสชาติอร่อยในจานเดียวกัน พร้อมสร้างความรู้ ความเข้าใจในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า สร้างจิตสำนึกอันดีต่อการดูแลสิ่งแวดล้อมและชุมชนที่อยู่อาศัย ตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อโลกคนรุ่นหลัง ร้าน alt.Eatery พร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 21 พฤษภาคม ศกนี้ นอกจากจะได้ลิ้มลองอาหาร Plant-Based จากเมนูแนะนำแล้ว ยังร่วมสนุกกิจกรรมภายใต้ concept "Taste a Bite of Tomorrow" เปิดประสบการณ์อาหารแห่งอนาคต พร้อมรับฟังดนตรียามเย็นในสวน และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมากมาย แล้วพบกันได้ที่ alt. Eatery ร้านที่ไม่ใช่แค่ตัวเลือก แต่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับอนาคตของคุณ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Instagram : https://www.instagram.com/alt.eatery/
Facebook : https://www.facebook.com/alt.Eatery
ที่มา: ปตท.