บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด แนะนำซื้อ หุ้น บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) (INSET) ราคาเป้าหมาย 7.60 บาท ประเมิน FV ปี 65 ที่ 7.6 บาท อิง PER 30 เท่า ตามกระแส Tech อนาคต ทั้งนี้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปกว่า 20% ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา รับแรงกดดันจากแรงขายหุ้น INSET ที่แปลงมาจาก INSET-W1 และรับงบไตรมาส 1/65 ที่อ่อนตัว ช่วง Low season ไปมากแล้ว โดยให้น้ำหนักกำไรฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป และโดดเด่นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ในขณะที่ระยะยาวมีโอกาสลุ้นคว้างานยักษ์ที่ขับเคลื่อนให้กำไรเติบโตก้าวกระโดด
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 2565 อยู่ที่ 196 ล้านบาท เติบโต 14.7% yoy ภายใต้ Backlog ปัจจุบันรองรับการรับรู้เป้าหมายรายได้ปี 2565 ที่ 1.7 พันล้านบาท ไปแล้วกว่า 70%
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส มองว่า ทิศทางกำไรของ INSET จะดีขึ้นในงวดไตรมาส 2/65 และคาดว่าจะโดดเด่นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดย Backlog หลังการรับรู้รายได้งวดไตรมาส 1/65 อยู่ที่ราว 2.3 พันล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากต้นปีที่ 2.4 พันล้านบาท จากการรับรู้รายได้บางส่วนและงานใหม่ที่เข้ามาในระดับใกล้เคียงกัน เนื่องจากช่วงต้นปีเป็นจุดเริ่มต้นการประมูลงานต่างๆ
ขณะที่แนวโน้มระยะถัดไปคาดหวังงานใหม่เข้ามาเติมใน Backlog มากขึ้น โดยในไตรมาส 2/65 บริษัทฯได้มีการประกาศลงนามสัญญาจ้างงาน Data center ไป 2 งานเป็นโครงการ Vayu Ready ของกรุงไทยคอมพิวเตอร์เซอร์วิส มูลค่า 64 ล้านบาท และโครงการของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ 77 ล้านบาท และปัจจุบันอยู่ระหว่างเข้าประมูลงาน 2-3 งาน จาก Big player และต่างประเทศ เข้ามาเพิ่มมูลค่าราว 400-500 ล้านบาท และรองานจากทางภาครัฐในครึ่งหลังของปีนี้ อีกราว 800-1,000 ล้านบาท
นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) (INSET) กล่าวว่า มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ จะเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยวางเป้าหมายรายได้เติบโต 15-20% เทียบปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากงานด้าน Data Center และระบบ Cloud Service ทำให้ผู้ให้บริการที่เร่งขยายและพัฒนา เพื่อรองรับกับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันเป็นเท่าตัว ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมีโอกาสได้รับงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีงานประมูลไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ในปีนี้ที่บริษัทฯพร้อมเข้าร่วมประมูล และมีโอกาสได้งานเพิ่ม ผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาสามารถประมูลงานได้ 2 โครงการ ได้แก่ 1.งานท่อร้อยสาย บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) มูลค่า 158.85 ล้านบาท และ 2.งานที่เกี่ยวข้องกับด้าน Data Center จำนวน 2 โครงการมูลค่ารวม 141.31 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันมี Backlog ประมาณ 2,330 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง
ที่มา: ไออาร์ เน็ตเวิร์ค