จากสภาพตลาดขณะนี้รวมไปถึงความเชื่อมั่นทางจิตวิทยาที่ลดลงอันเกิดจากการล่มสลายของ LUNA-UST ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโทฯ ลดลงเหลือ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ จากที่เคยอยู่จุดสูงสุด 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขาย Stablecoin ทั้งหมดในตอนนี้คือ 69.26 พันล้านดอลลาร์ซึ่งเท่ากับ 87.36% ของปริมาณการซื้อขายรวมในตลาดคริปโทฯใน 24 ชั่วโมง (26 พ.ค 65) [อ้างอิง: coinmarketcap] ซึ่งอาจมองได้ว่านักลงทุนกำลังใช้ Stablecoin กลุ่มที่มีสินทรัพย์หนุนหลังเป็นที่พักเงิน
ถ้าจะมองหา Safe-Haven ของการลงทุนขณะนี้ ก็อาจเป็นกลุ่ม Stablecoin อย่าง USDC USDT BUSD ซึ่งช่วงนี้ค่าเงิน USD กำลังแข็งอยู่เมื่อเทียบกับ Bitcoin หรือเมื่อเทียบกับค่าเงิน Thai Baht ซึ่งอ่อนลง หรือ GOLD stablecoin ก็น่าสนใจ อย่าง PAXO GOLD (PAXG) เพราะทองคำ จะกลับมาขึ้น หรือไม่ลงต่อแบบหลายเดือนที่ผ่านมาแล้ว ทองคำขณะนี้ ยืนเหนือ 1,780 $/oz ได้ แล้วกลับมาอยู่ที่ 1,850 $/oz เป้าหมายต่อไปที่ 1,900-1,925 $/oz เป็นไปได้ง่ายทิศทางไป 2,000 $/oz กลับขึ้นไปไม่ยาก เพราะเงินเฟ้อยังสูงอยู่ทั่วโลก
สรัล ศิริพันโนน ซีอีโอ Satang Corporation ให้ความเห็นว่า "ตลาดจะกลับมาเมื่อไรนั้นค่อนข้างจะตอบได้ยากเพราะ FED ก็ยังคงขึ้นดอกเบี้ยอยู่ ถ้าในกลุ่มนักลงทุนที่กำลังรอซื้อควรจะรออีกหน่อยเพราะตลาดยังเป็นขาลงอีกในระยะ 2 - 3 เดือนข้างหน้าและตลาดอาจค่อนข้างลงแบบซิกแซ็ก ไม่ลงแบบทิ้งดิ่งในครั้งเดียวนักลงทุนต้องระมัดระวังให้มาก ส่วนในประเด็นของการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลจนถึงสิ้นปี 2566 ของไทยนั้นมองว่าเป็นเรื่องที่ดี น่าจะช่วยให้ประเทศมีเวลาได้ลองอะไรมากขึ้น แต่อยากเสนอว่ารัฐฯควรจะยกเว้นการเก็บภาษีจาการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่ถือครองเกิน 1 ปี เช่นในประเทศเยอรมันนี"
ที่มา: มีเดีย พลัส คอนเนคชั่น