โดยการประชุมดังกล่าว นายวุฒิชัย สุระรัตน์ชัย กรรมการและผู้จัดการธนาคารได้รายงานสรุปผลการดำเนินงานที่สำคัญในปี 2564 ว่าเป็นปีแห่งการคำนึงถึงลูกค้าเป็นลำดับแรก หรือ Customer First โดยให้ความสำคัญในการดูแลลูกค้าให้สามารถผ่านพ้นความยากลำบากจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID - 19 ผ่านมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบตามแนวนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยและมาตรการที่ธนาคารออกเอง ส่งผลให้ ณ 31 ธันวาคม 2564 มีลูกหนี้ที่ธนาคารให้ความช่วยเหลือผ่านมาตรการต่างๆ คงเหลือ 3,198 ราย ภาระหนี้ 6,614 ล้านบาท ณ สิ้นปีธนาคารมียอดสินเชื่อ 56,942 ล้านบาท ยอดเงินฝาก 70,993 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงานรวม 230 ล้านบาท และกำไรสุทธิเป็นเงิน 120 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ธนาคารยังดำเนินพันธกิจที่สำคัญ ในการช่วยเหลือชุมชนมุสลิมที่ประสบปัญหาหนี้นอกระบบ มุ่งหวังสานนโยบายของรัฐในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมผ่านกระบวนการให้สินเชื่อโครงการชุมชนซื่อสัตย์ อาศัยการเข้าถึงมัสยิด โดยผลการตอบรับโครงการ ณ สิ้นปี 2564 มีมัสยิดเข้าร่วมบันทึกข้อตกลงกับธนาคาร 481 มัสยิด ครอบคลุม สัปปุรุษกว่า 390,000 คน นอกจากนั้น ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ระหว่างคนรวยกับคนจนผ่านการบริหารจัดการเงินซะกาตช่วยเหลือผู้มีสิทธิ์รับซะกาตในรอบปี จำนวน 167 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 1.23 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาแต่งตั้งกรรมการที่ครบวาระกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการธนาคารอีกหนึ่งวาระ จำนวน 4 คน ได้แก่ นางวชิรญา เพิ่มภูศรี ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายระบิล พรพัฒน์กุล และนายวุฒิชัย สุระรัตน์ชัย มีการพิจารณาแต่งตั้ง ดร.ธัชพล โปษยานนท์ เป็นกรรมการธนาคารแทนตำแหน่งที่ว่างลง และแต่งตั้ง นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร เป็นกรรมการธนาคารแทนตำแหน่งที่ลาออก จำนวน 1 คน
ที่มา: ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย