สรโชติ อำพันวงษ์ นายกสมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดรวมของ ทีวีโฮมช้อปปิ้งอยู่ที่ 16,000 ล้านบาท โดยภาพรวมธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง มีตัวแปรสำคัญคือ COVID-19 ซึ่งส่งผลต่อตลาด รีเทลทั้งหมด ส่งผลให้สินค้าที่ขายดีที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว คือกลุ่มอาหาร ซึ่งทำให้เห็นว่าผลกระทบของแต่ละช่องนั้นแตกต่างกัน ขึ้นอยู่ว่าแต่ละช่องขายสินค้ากลุ่มไหนเป็นหลัก
โดยในส่วนพฤติกรรมของคนไทยที่ปรับเปลี่ยนสู่วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของ Covid-19 และช่วงล็อกดาวน์ประเทศ ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มทีวีโฮมช้อปปิ้ง และแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกสบาย สามารถชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ มีบริการจัดส่งสินค้าถึงปลายทาง มีการรับประกันคืนสินค้า จำหน่ายสินค้าโดยผู้ประกอบการที่มีความน่าเชื่อถือ และ มีมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งสมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง (ประเทศไทย) ได้เซ็น MOU ความร่วมมือการคุ้มครองผู้บริโภค กับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อยกระดับการดำเนินธุรกิจ ที่ยึดมั่นในกฎระเบียบข้อบังคับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความเชื่อมั่น ของแพลตฟอร์มทีวีโฮมช้อปปิ้ง
สำหรับทิศทางของสมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง จะเน้นการทำงานร่วมกัน (Synergy) ระหว่างสมาชิกมากขึ้น มีการทำ Cross-selling อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มยอดขาย และสร้างโอกาสนำเสนอสินค้าไปขายยังช่องอื่นๆ เพื่อเป็นการสร้างกลุ่มทีวีโฮมช้อปปิ้งให้แข็งแรง โดยทุกช่องต่างมองเห็นภาพรวมไปด้วยกัน ดั่งคำว่า "รวมกันเราอยู่"
ธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้ง มีศักยภาพและโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยคาดว่าภาพรวมในปีนี้น่าจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมามากกว่า 10% เนื่องจากภายหลังเกิดโรคระบาด Covid-19 จะสามารถขยายฐานลูกค้ามากยิ่งขึ้น และเชื่อว่าจะเป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้ง มีจุดเด่นด้านการนำเสนอสินค้าผ่านแพลตฟอร์มหลากหลายรูปแบบ ทั้งช่องทางทีวีดิจิทัลที่ออนแอร์ในช่วงเวลาโฆษณา ช่องทางทีวีดาวเทียมที่เป็นรูปแบบช่องโฮมช้อปปิ้ง 24 ชั่วโมง ช่องทางออนไลน์ และเทเลเซล์ นอกจากนี้ ยังมีจุดแข็งด้านการสร้างคอนเทนต์นำเสนอผลิตภัณฑ์และความถี่การออกอากาศ รวมถึงการนำเสนอโปรโมชั่นที่น่าสนใจ จึงทำให้ทีวีโฮมช้อปปิ้งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มขายสินค้าที่สามารถกระตุ้นผู้บริโภคให้ตัดสินใจซื้อสินค้าแบบเรียลไทม์
ทีวีโฮมช้อปปิ้ง นับว่าเป็นช่องทางการจำหน่ายที่มีค่าใช้จ่ายและต้นทุนการบริหารจัดการต่ำกว่า เมื่อเทียบกับช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เนื่องจากไม่จัดเก็บค่าแรกเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้าในปริมาณมาก ดังนั้นผู้ประกอบการจึงสามารถบริหารจัดการทางการเงินได้อย่างคล่องตัว สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก นอกจากนี้ ทีวีโฮมช้อปปิ้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถนำเสนอสินค้า และทำตลาดตรงกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Marketing) พร้อมกับการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ สามารถดึงดูด และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าได้เป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน ธุรกิจทีวีช้อปปิ้งมีฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ ทั้งกลุ่ม Baby Boomer ที่เกิดในช่วงปี 2489 - 2507 และกลุ่ม Gen X ที่เกิดในช่วงปี 2508 - 2522 ซึ่งยังมีพฤติกรรมรับชมทีวีเป็นสื่อหลัก และอยู่ในช่วงเรียนรู้การสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่ต้องการต่อยอดธุรกิจ โดยการผสานช่องทางออฟไลน์มาสู่ออนไลน์หรือทีวีโฮมช้อปปิ้ง (Omni Channel) เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกช่องทาง
ส่วนเทรนด์สินค้าบนทีวีโฮมช้อปปิ้งพบว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมยังคงเป็นสินค้าที่มาแรง เนื่องจาก Covid-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น และในส่วนโกลบอลเทรนด์(Global Trend) พบว่าปัจจุบันคนรุ่นใหม่เริ่มดู TV ลดลง ทำให้ตอนนี้สามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าที่ดูทีวีโฮมช้อปปิ้ง ได้ชัดเจนว่าเป็นผู้ใหญ่ ที่มีอาชีพอิสระ อาชีพแม่บ้าน หรือเจ้าของธุรกิจ ที่มีกำลังซื้อสูงและมีเวลา ซึ่งส่วนใหญ่มักอาศัยอยู่ในต่างจังหวัด ทำให้สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้ชัดและตอบโจทย์มากขึ้น
ที่มา: ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล