นายยศพล เวณุโกเศศ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า ในการจัดทำโครงการในครั้งนี้ สอศ.ได้ร่วมมือกับมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด ดำเนินโครงการการเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาท เพื่อจุดประกายให้เกิดความตระหนักรู้ในการพัฒนาตนเอง เรียนรู้และมีประสบการณ์เกี่ยวกับบทบาท และพระจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) ที่ทรงงานเพื่อประเทศชาติเข้าใจในต้นแบบที่ดีของพระองค์ และนำมาเป็นกรอบความคิดในการพัฒนาตนเอง และพัฒนาสถานศึกษาต่อไป โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 และในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ได้มีการขับเคลื่อนขยายผลการดำเนินงานสู่กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น มีการพัฒนาหลักสูตรการอบรมให้ครอบคลุมการดำเนินงานทั้งในส่วนของผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากร และนักเรียน นักศึกษา ซึ่งหนึ่งในหลักสูตรที่ได้รับการพัฒนาใหม่ คือหลักสูตรการพัฒนาผู้บริหาร-ผู้นำสถานศึกษา โดยกำหนดดำเนินการนำร่องให้กับผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาภาคใต้เป็นแห่งแรก จำนวน 81 แห่ง รวมทั้งสิ้น 143 คน ประกอบด้วยผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาจากสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐ
ด้านดร.สมโภชน์ นพคุณ กรรมการมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด กล่าวว่าโครงการการเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาท มีจุดมุ่งหมายเพื่อการเรียนรู้ และการพัฒนาตนเองให้เป็น คนดี คนเก่ง มีจิตอาสา จากการเรียนรู้ต้นแบบในการทรงงาน และพระจริยวัตรที่งดงามของพระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) ตลอด 70 ปีที่ทรงครองราชย์ ทรงสร้างและพัฒนาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากกว่า 4,800 โครงการทั่วประเทศ และศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริอีก 6 ศูนย์ ใน 6 ภูมิภาค ไว้เป็น "มรดกอันสุดประเสริฐ ล้ำค่า" อย่างยิ่งแก่ประเทศไทย ที่พวกเราชาวไทยโดยเฉพาะ "ข้าราชการ" ที่ควรตระหนักและเรียนรู้จาก "ต้นแบบที่ดี" ของพระองค์ และนำมาพัฒนาตนเองให้เป็นข้าราชการที่ดี ที่เก่ง มีจิตสาธารณะ ซึ่งทางมูลนิธิจะเป็นผู้พัฒนาหลักสูตร รวมทั้งจัดหาและเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในการดำเนินการตามกระบวนการเรียนรู้ของหลักสูตรตามพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า "จะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"
ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา