ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.วาว แฟคเตอร์ (W) เจ้าของแฟรนไชส์ "โดมิโน่" ของเมืองไทย ประกาศพร้อมใส่เงินเพิ่มทุน RO เต็มหน้าตัก มั่นใจธุรกิจ Food & Beverage เข้าสู่โหมดเติบโตรอบใหม่ได้ "โดมิโน่พิซซ่า" เป็นแรงหนุนสำคัญ ควบคู่ไปกับแผนลุยขยายสาขาร้านอาหารในเครือ จับตา Pilot Project ร้านอาหาร F&B Partner ของโรงแรม ที่ร่วมลงทุนกับเชฟดีเค (Deepanker Khosla) ปักหมุดโรงแรม Somerset พระราม 9 เป็นแห่งแรก ภายในเดือนมิถุนายนนี้ มั่นใจเป็น New S Curve หนุนธุรกิจในปี 65 พลิกมีกำไร ตามแผน
นายศิรัตน์ รัตนไพฑูรย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (มหาชน) (W) เจ้าของแฟรนไชส์ "โดมิโน่พิซซ่า" ในไทย เปิดเผยว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ประกาศความพร้อมในการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยแผนเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 180,869,643 หุ้น จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ในสัดส่วน 9 : 2 ราคา 3.30 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน-20 มิถุนายน 2565 นี้ เนื่องจากมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ Food & Beverage ที่เข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น และรัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น กระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ ซึ่งส่งผลดีกับธุรกิจของบริษัทฯ ขณะที่กำลังซื้อภายในประเทศเริ่มฟื้นตัว
"ผู้ถือหุ้นใหญ่แสดงความจำนงเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น ตอกย้ำให้เห็นว่า ยุทธศาสตร์และแผนการดำเนินธุรกิจของเราเดินมาถูกทาง และเตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้รองรับแผนขยายสาขาโดมิโน่พิซซ่า และขยายสาขาธุรกิจอาหารในเครือ รวมไปถึงโปรเจคใหม่ที่ถือเป็น Pilot Project ของ W ที่พร้อมลุยธุรกิจร้านอาหารในลักษณะ F&B Partner ของโรงแรม ผ่านการร่วมลงทุนกับเชฟดีเค (Deepanker Khosla) โดยเปิดสาขาที่โรงแรม Somerset พระราม 9 เป็นแห่งแรก ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งมั่นใจเป็น New S Curve ผลักดันผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯในปีนี้พลิกมีกำไร" นายศิรัตน์ฯ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายสาขาโดมิโน่พิซซ่า ซึ่งถือเป็นหัวหอกสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยปีนี้มีแผนเปิดครบ 60 สาขา เพื่อรองรับดีมานด์ผู้บริโภคในยุคใน New Normal ควบคู่ไปกับการขยายสาขาร้านอาหารในเครือ ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของแบรนด์ ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าไม่ว่าจะเป็น Kagonoya, Le Boeuf และ BAKE WORKS
นอกจากนี้ Pilot Project ร้านอาหารลักษณะ F&B Partner ของโรงแรมที่บริษัทฯ ร่วมทุนกับเชฟดีเค (Deepanker Khosla) เป็นการขยายขอบเขตธุรกิจแบบ Horizontal Integration ที่ครอบคลุมถึงธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในโรงแรม จะเป็น New S Curve ให้กับกลุ่มบริษัทฯ ผลักดันรายได้และกำไรเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีแผนเปิดสาขาอีก 5 แห่งภายใน 1-2 ปีนี้ รองรับดีมานด์กลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวไทย และต่างชาติที่ใช้บริการในโรงแรม
ที่มา: บางกอก ออทัม