ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของภาคธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นสินค้าและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางเกษตร รวมถึงการบริการที่เป็นธุรกิจฐานรากที่สำคัญของประเทศไทย ที่ยังจำเป็นต้องเร่งปรับตัวให้ก้าวทันสถานการณ์ปัจจุบันที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิตปรกติใหม่ ตลอดจนการทำงานของผู้คนส่วนใหญ่มากขึ้น ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรจึงต้องเร่งปรับแผนและพลิกวิกฤตเป็นโอกาสให้เร็ว ทั้งในด้านการพัฒนาบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยอาศัยเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มใหม่ ๆ มาใช้ในการทำธุรกิจและต่อยอดไปสู่ความยั่งยืน ดังนั้น ดีพร้อม จึงได้เดินหน้าจัดกิจกรรม "ปลูกปั้น DIPROM Franchise ครั้งที่ 2 ยกระดับนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ปั้น 30 แฟรนไชส์" เพื่อเสริมสร้างความรู้และยกระดับนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ปั้นธุรกิจจากเอสเอ็มอีขยายตลาดสู่การเป็น "แฟรนไชส์" อย่างเป็นระบบ โดยเน้นการให้ความรู้เรื่องการบริหารร้าน การคำนวณต้นทุน การทำการตลาด การขยายสาขา การสร้างโมเดลธุรกิจที่สามารถพัฒนาและต่อยอดได้ ด้วยคู่มือบริหารแฟรนไชส์ ที่ได้มาตรฐาน ถ่ายทอดองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ โดย ดร.วิชัย เจริญธรรมานนท์ ผู้คว่ำหวอดในวงการแฟรนไชส์ และ Chain Store มากว่า 30 ปี และ มีประสบการณ์ตรงจากการเป็นที่ปรึกษาบริษัทแถวหน้าของเมืองไทย
กิจกรรมในครั้งนี้ มีธุรกิจเกษตรจำนวน 30 ธุรกิจที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรม ล้วนเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หรือวิสาหกิจชุมชน ที่ขึ้นทะเบียนถูกต้อง โดยเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ธุรกิจเกษตร เกษตรแปรรูป และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง มีความพร้อมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการทำการตลาดและจัดจำหน่าย ที่สำคัญมีความพร้อมสำหรับการฝึกอบรม เวิร์กชอป และปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อสร้างโมเดลธุรกิจ และการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างมีเป้าหมาย ผ่านการเรียนการสอนที่เป็นแบบผสมผสานทั้งออนไลน์และออฟไลน์ กำหนดการอบรม จำนวน 6 ครั้ง ระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2565
ทั้งนี้ กิจกรรม "ปลูกปั้น DIPROM Franchise ครั้งที่ 2 ยกระดับนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมปั้น 30 แฟรนไชส์ มีความมุ่งหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคธุรกิจเกษตรของไทยให้มีความเข้มแข็ง โดย ดีพร้อมได้ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด ทั้งการจัดหลักสูตรที่เหมาะสมสำหรับผู้ประกอบการ การทำให้เข้าถึงบริการของดีพร้อมจากทุกที่ทุกเวลา การปฏิรูปโครงการให้มีความเหมาะสมในกับยุคสมัย เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายทำให้ผู้ประกอบการและเศรษฐกิจมีความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป" ดร.ณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น