มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ (MHI) เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้แอมโมเนีย สำหรับการผลิตพลังงานในอินโดนีเซีย

พุธ ๑๕ มิถุนายน ๒๐๒๒ ๑๓:๔๐
บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด (MHI) ได้เริ่มการศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้แอมโมเนียเป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าในอินโดนีเซีย โดยได้รับการสนับสนุนจาก มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ซึ่งเป็นแบรนด์โซลูชันด้านพลังงาน ข้อเสนอสองรายการเพื่อดำเนินการศึกษานี้ได้รับการอนุมัติโดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่นให้เปิดเผยและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงและความเชี่ยวชาญของบริษัทญี่ปุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ ทั่วโลก และมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก นี่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสนับสนุนการกำจัดคาร์บอนสำหรับภาคพลังงานในประเทศผ่านโครงการริเริ่มด้านการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานแห่งเอเชีย (AETI)[ โครงการริเริ่มด้านการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานแห่งเอเชีย (AETI) ได้รับการประกาศโดยรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 และมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความเป็นกลางทางคาร์บอนในเอเชียไปพร้อม ๆ กับการบรรลุความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน]
มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ (MHI) เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้แอมโมเนีย สำหรับการผลิตพลังงานในอินโดนีเซีย

การศึกษาสองรายการนี้ได้ตรวจสอบความเป็นไปได้ในการใช้แอมโมเนีย[ ไฮโดรเจนสีฟ้า ซึ่งไม่ส่งผลต่อปรากฏการณ์เรือนกระจกได้มาจากการแยกก๊าซธรรมชาติหรือวัสดุที่คล้ายคลึงกันออกเป็นไฮโดรเจน (H2) และคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ไม่ว่าจะโดยการเปลี่ยนสภาพมีเทนด้วยไอน้ำ (SMR) หรือการเปลี่ยนสภาพด้วยไอน้ำกับออกซิเดชันบางส่วน (ATR) ซึ่งดักจับและจัดเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ไว้แทนที่จะปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ เมื่อรวมเข้ากับไนโตรเจน (N2) จะทำให้เกิดแอมโมเนียสีฟ้า (NH3) ซึ่งไม่ส่งผลต่อปรากฏการณ์เรือนกระจกเช่นกัน และแอมโมเนียสีฟ้านี้จะนำไปใช้ในทั้งสองโครงการ] ณ โรงไฟฟ้าถ่านหินสุราลายา ประเทศอินโดนีเซียและในโรงไฟฟ้าปัจจุบันที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในประเทศ ซึ่งมาจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจำนวนมากที่ผลิตในอินโดนีเซีย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างห่วงโซ่คุณค่าแอมโมเนียแบบบูรณาการ ซึ่งครอบคลุมการผลิต การขนส่ง การใช้เชื้อเพลิง รวมถึงการดักจับและการจัดเก็บคาร์บอนไดออกไซด์

ข้อเสนอสองรายการที่ได้รับเลือกจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ในการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานคุณภาพสูงในต่างประเทศ (โครงการสำรวจการส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในต่างประเทศโดยบริษัทญี่ปุ่น) ได้แก่ การสำรวจความเป็นไปได้ในการเผาไหม้เชื้อเพลิงผสมแอมโมเนีย ณ โรงไฟฟ้าสุราลายาในอินโดนีเซีย และการประเมินห่วงโซ่คุณค่าโดยรวม (โครงการสุราลายา) และ การสำรวจความเป็นไปได้ในการปรับปรุงโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ปัจจุบันที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในอินโดนีเซีย เพื่อให้ริเริ่มการผลิตพลังงานโดยใช้แอมโมเนียและการสร้างห่วงโซ่คุณค่า ณ โรงไฟฟ้าปัจจุบันที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (โรงไฟฟ้าปัจจุบันที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง) ข้อเสนอทั้งสองรายการนี้จะตรวจสอบศักยภาพในการลดคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการผลิตพลังงานและผลกระทบจากการผลิต ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั่วโลก และสาธารณูปโภคระดับสูง และนวัตกรรมของการศึกษาความเป็นไปได้เหล่านี้ ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อนโยบายที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลญี่ปุ่น

โดยวัตถุประสงค์หลักของโครงการสุราลายาฯ ประกอบไปด้วย การคำนวณประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของกระบวนการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตสำหรับการขนส่งแอมโมเนียที่ผลิตในอินโดนีเซียไปยังโรงไฟฟ้าและใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงาน โครงการนี้จะดำเนินงานร่วมกับมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น และบริษัท นิปปอน โคเอะ จำกัด โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการประมาณปี 2573

ในขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าปัจจุบันที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงฯ มีวัตถุประสงค์ในการคำนวณประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของการขนส่งแอมโมเนียและไฮโดรเจนที่ผลิตในอินโดนีเซียไปยังโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในบริเวณใกล้เคียงเพื่อใช้เชื้อเพลิงในการผลิตพลังงาน โครงการนี้จะดำเนินงานร่วมกับบริษัท โตเกียว อิเล็คทริค เพาเวอร์ เซอร์วิส จำกัด (TEPSCO) โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษนี้

ทั้งสองโครงการฯ จะมีการตรวจสอบประสิทธิภาพของการลดคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่า โดยบริษัทฯ จะมุ่งเน้นที่ผลลัพธ์ของการริเริ่มเทคโนโลยีการผลิตพลังงานด้วยแอมโมเนียเป็นหลัก นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้วางแผนที่จะดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ตามมาตรการสนับสนุนของสถาบัน เช่น การสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลญี่ปุ่น และความพยายามในการกำจัดคาร์บอนและการกำหนดราคาคาร์บอนโดยอินโดนีเซีย จากการดำเนินโครงการเหล่านี้ มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ หวังว่าจะได้มีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายการส่งออกโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานจากประเทศญี่ปุ่น

ประเทศอินโดนีเซียได้มีการประกาศนโยบายที่จะใช้แหล่งพลังงานที่มาจากพลังงานหมุนเวียน 23% ภายในปี 2568 และ 28% ภายในปี 2578 ทางมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ และ มิตซูบิชิ พาวเวอร์ จะใช้ความพยายามร่วมกันในฐานะกลุ่มบริษัท โดยร่วมมือกับกลุ่มบริษัทพลังงานที่รัฐบาลอินโดนีเซียเป็นเจ้าของและสถาบันเทคโนโลยีบันดุง (ITB) เพื่อสนับสนุนแนวทางที่จะช่วยให้ประเทศบรรลุเป้าหมาย

ด้วยการสนับสนุนจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ที่อนุมัติการศึกษาความเป็นไปได้เหล่านี้ ในอนาคต มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ และ มิตซูบิชิ พาวเวอร์ จะมีส่วนช่วยในการกำจัดคาร์บอนในอินโดนีเซียมากขึ้น และสร้างแรงผลักดันในการนำนโยบายการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของบริษัทไปปรับใช้ทั่วโลกผ่านโครงการต่าง ๆ

ที่มา: เอเดลแมน (ประเทศไทย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO