"การจัดงานในครั้งนี้ จะเป็นการอนุรักษ์ และสืบสานวัฒนธรรมการสาวไหมแบบพื้นบ้านของไทย ให้เยาวชนและเกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหมได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมที่ดีงามแบบดั้งเดิม รวมทั้งเชิดชูบุคคลที่ผลิตผลงานคุณภาพด้านหม่อนไหม สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่จะเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ ในการสืบสานพระราชปณิธาน และขยายผลให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ซึ่งประเทศไทยมีการทำอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเป็นเวลานาน มากกว่า 100 ปี โดยอาชีพหม่อนไหมมีจุดเด่นในการเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกรได้ตลอดทั้งปี สามารถสร้างอาชีพในถิ่นที่อยู่ ส่งผลให้เกิดความอบอุ่นในครอบครัว การที่ทุกภาคส่วนร่วมกันกำหนดให้มีการประกวดและการแข่งขันผลผลิตหรือสินค้าด้านหม่อนไหม จะทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานและเกิดการสร้างสรรค์สินค้าและผลิตภัณฑ์ในรูปแบบใหม่ ๆ ส่งผลต่อการพัฒนา และสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก โดยดึงความเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนได้" ดร.เฉลิมชัย กล่าว
นอกจากนี้ ภายในงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบเงินรางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมระดับประเทศ จำนวน 1 ราย มอบใบรับรองร้านค้าจำหน่ายผ้าไหมไทยที่ได้มาตรฐาน จำนวน 4 ร้าน มอบใบประกาศเกียรติคุณแก่เกษตรกรหม่อนไหม ได้แก่ เกษตรกรต้นแบบด้านการทอผ้าไหม จำนวน 2 ราย ด้านการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จำนวน 1 ราย ผู้ส่งเสริมและสนับสนุนอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จำนวน 5 ราย (ปราชญ์หม่อนไหม) ด้านการสืบทอดและอนุรักษ์ภูมิปัญหาอาชีพปลูกหม่อนไหม (ทายาทหม่อนไหมโรงเรียน) จำนวน 6 ราย มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ครอบคลุม 18 อำเภอ ประมาณ 1,301,747 ไร่ ให้แก่เกษตรกรจากอำเภอเต่างอย อำเภอภูพาน อำเภอเมือง อำเภอกุสุมาลย์ อำเภอกุดบาก และอำเภอพรรณนานิคม พร้อมเยี่ยมชมงานและนิทรรศการภายในงาน
ด้าน นายศรัญญู พูลลาภ รองอธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมภายในงาน ได้กำหนดให้มีการจัดนิทรรศการ การประกวด และการแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 29 ประเภท ประกอบด้วย 1) การแข่งขันสาวไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้าน 6 ประเภท รวม 54 ทีม 2) การประกวดผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานสีทอง 11 ประเภท รวม 291 ผืน 3) ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานสีเงิน 1 ประเภท รวม 57 ผืน 4) ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานสีน้ำเงิน 9 ประเภท รวม 317 ผืน 5) ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานสีเขียว 1 ประเภท รวม 24 ผืน และ 6) การประกวดสิ่งประดิษฐ์จากผ้าไหม ประเภท กระเป๋าสตรี 1 ประเภท รวม 32 ใบ โดยผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศรางวัลที่ 1 ทุกประเภท จะได้รับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และจะถูกนำไปจัดแสดงในงาน "ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2565" ระหว่างวันที่ 24 - 28 สิงหาคม 2565 ณ ศูนย์จัดแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี
ที่มา: สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์