การประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่ความพยายามร่วมกันระหว่างบริษัทข้ามชาติกับธุรกิจและองค์กรของจีนในการเดินหน้าเปิดตลาดจีน เพื่ออัดฉีดพลังให้แก่เศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลก ด้วยการสร้างการพัฒนารูปแบบใหม่ผ่านการเจรจา ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือครั้งใหม่ที่กว้างขวางครอบคลุมมากขึ้นระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
งานนี้ดึงดูดผู้บริหารระดับแนวหน้าจากบริษัทที่ติดอันดับฟอร์จูน 500 (Fortune 500) มากถึง 186 แห่ง และจากธุรกิจชั้นนำอีก 290 แห่งทั่วโลก รวมถึงนักการทูตจากหลายประเทศ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรและสมาคมธุรกิจระหว่างประเทศหลายแห่ง สรุปแล้วมีผู้เข้าร่วมการประชุมรวมกว่า 5,600 คนทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์
การประชุมครั้งนี้เปิดเวทีให้ผู้บริหารระดับแนวหน้าของบริษัทข้ามชาติได้มาร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนในประเด็นต่าง ๆ เช่น การฟื้นฟูห่วงโซ่อุปทานโลก การปฏิบัติตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน เป็นต้น
ปัจจุบัน ระบบห่วงโซ่อุปทานโลกกำลังเปลี่ยนโฉมหน้าอย่างรวดเร็วโดยได้รับผลกระทบจากการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มมากขึ้น สถานการณ์โควิด-19 และอีกหลายปัจจัย อย่างไรก็ดี บรรดาบริษัทข้ามชาติยังคงเชื่อมั่นในตลาดจีนและเต็มใจที่จะลงทุน แม้ว่าบทบาทของจีนในระบบห่วงโซ่อุปทานโลกกำลังเปลี่ยนไปเนื่องจากความได้เปรียบลดลงทั้งในด้านต้นทุนและการผลิตปริมาณมาก
จีนตั้งเป้ากระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจพร้อมกับใช้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคระบาด โดยรัฐบาลจีนต้องการเดินหน้าเปิดเสรีการค้าและการลงทุนด้วยการผ่อนคลายการเข้าถึงตลาดและส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระดับนานาชาติที่สอดคล้องกับตลาดและตัวบทกฎหมาย
การที่ตลาดจีนเปิดกว้างมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยมากขึ้นซึ่งช่วยสร้างโอกาสเพิ่มเติม แสดงให้เห็นว่าจีนพร้อมต้อนรับบริษัทต่างชาติให้เข้ามาลงทุน ตั้งบริษัท หรือขยายธุรกิจที่มีอยู่แล้ว เพื่อคว้าประโยชน์จากเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1843983/thumbnail_IMG_8708.jpg