'บริทาเนีย' วางแผนบุกหนักไตรมาส 3 เตรียมเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่าขายรวมกว่า 4.6 พันล้านบาท

พฤหัส ๒๓ มิถุนายน ๒๐๒๒ ๑๑:๔๓
บมจ.บริทาเนีย หรือ BRI รุกหนักไตรมาส 3 เตรียมเปิดตัวที่อยู่อาศัยแนวราบ 4 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 4,550 ล้านบาท เพื่อตอบสนองดีมานด์ผู้บริโภค หลังประเมินแนวโน้มตลาดครึ่งปีหลังจะคึกคักขึ้น หลังมีปัจจัยบวกจากภาพรวมเศรษฐกิจที่เริ่มทยอยฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ สถานการณ์ COVID-19 ที่เริ่มคลี่คลายและเตรียมประกาศเป็นโรคประจำถิ่น ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นในการซื้ออสังหาฯ

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีความคึกคักขึ้น หลังจากมีปัจจัยบวกจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มทยอยฟื้นตัวภายหลังการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่เริ่มคลี่คลายและการเตรียมตัวประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่น รวมถึงการอนุญาตให้สถานบันเทิงในหลายจังหวัดกลับมาเปิดให้บริการ ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์

บริษัทฯ จึงพร้อมเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ตามแผนงานที่เคยประกาศไว้ โดยในช่วงไตรมาส 3/2565 เตรียมเปิดตัวที่อยู่อาศัยแนวราบอีก 4 โครงการ ภายใต้แบรนด์ "แกรนด์ บริทาเนีย" และ "บริทาเนีย" มูลค่าโครงการรวม 4,550 ล้านบาท เทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่เปิดโครงการใหม่แล้ว 2 โครงการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย

สำหรับแผนเปิดตัวที่อยู่อาศัยแนวราบ 4 โครงการใหม่ ประกอบด้วย 1) โครงการแกรนด์ บริทาเนีย คูคต สเตชั่น พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด จำนวน 186 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 6.79 - 10.30 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท 2) โครงการบริทาเนีย วงแหวน - ปิ่นเกล้า พัฒนาเป็นบ้านแฝด จำนวน 106 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5-7 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 550 ล้านบาท 3) โครงการบริทาเนีย โฮม บางนา กม.17 พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด จำนวน 228 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4.99 - 8.99 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และ 4) โครงการบริทาเนีย ทาวน์ บางนา กม.17 เป็นบ้านแฝดและทาวน์โฮม จำนวน 352 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.99 - 4.99 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท

สำหรับบ้านแนวราบ 4 โครงการใหม่ที่จะทยอยเปิดพรีเซล ล้วนอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ ใกล้แนวรถไฟฟ้าหรือใกล้นิคมอุตสาหกรรมซึ่งเป็นแหล่งงานที่สำคัญ โดยบริษัทฯ ได้นำหลักการ Human Centric หรือยึดผู้อยู่อาศัยเป็นศูนย์กลางมาใช้ในการออกแบบและพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งศึกษาความต้องการพื้นฐานของการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคปัจจุบัน เช่น การออกแบบพื้นที่ใช้สอยเพื่อรองรับการทำงานที่บ้าน (Work From Home), เมกะเทรนด์ด้านพลังงานสะอาด เป็นต้น เพื่อออกแบบบ้านที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย

"เรามองว่าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวดีขึ้นหากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบ หลังกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคทยอยปรับตัวดีขึ้น เราจึงพร้อมเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ตามแผนที่เตรียมไว้ และเชื่อว่าจะสามารถผลักดันยอดพรีเซลรวมถึงยอดรับรู้รายได้ในปีนี้ถึงเป้าหมายที่วางไว้" นางศุภลักษณ์ กล่าว

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version