ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ สู่มือผู้บริโภค โดยยังคงมุ่งเน้นนำเสนอบ้านคุณภาพเพื่อเจาะกลุ่ม real demand สืบเนื่องจากความต้องการของตลาดกลุ่มนี้ซึ่งยังมีปริมาณความต้องการที่ชัดเจน แม้จะมีสถานการณ์การของแพร่ระบาด "กว่า 30 ปีที่บริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ป้อนสู่ตลาด เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเรากำลังสร้างบ้านสำหรับใคร สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่เราคิดอยากจะทำ แต่สิ่งต่างๆที่หลอมรวมออกมาเป็นบ้านทุกหลัง เราสร้างบนพื้นฐานความต้องการของผู้บริโภคเป็นสำคัญ และนำมาต่อยอดให้ความต้องการเหล่านั้นครบครันยิ่งขึ้น ด้วยการมองเทรนด์ในอนาคตเพื่อให้การอยู่อาศัยในทุกโครงการของเราสมบูรณ์แบบที่สุด" นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวถึงความตั้งใจในการพัฒนาบ้านเพื่อผู้บริโภค
ด้วยพลังสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ ที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยในแต่ละยุค ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จึงได้นำจุดแข็งที่มี คือการออกแบบที่ผสานความสวยงามเข้ากับการสร้างสรรค์พื้นที่ใช้สอยไว้อย่างลงตัว เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค ที่สำคัญเมื่อบ้านเป็นที่ต้องการ มูลค่าในอนาคตก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยในปี 2565 บริษัทฯ ได้ปรับโฉมแบรนด์บ้านกลุ่มแลนซีโอใหม่ทั้งหมด เมื่อสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แฝงไปด้วยความหรูหราในสไตล์ฝรั่งเศส French Colonial Style ถือเป็นเทรนด์ยอดนิยมของผู้บริโภคไทยในปัจจุบัน พร้อมทั้งใส่แนวคิดบ้านนวัตกรรม LI (Lalin Innovation for Living) ที่นำไปสู่การอยู่อาศัยในรูปแบบสมาร์ท ลีฟวิ่ง ฟังก์ชัน (Smart Living Function) เพื่อมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่อย่างเหนือระดับ ทำให้ผู้บริโภคให้การตอบรับเป็นอย่างดี และสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญให้แก่แบบบ้านในตลาดกับความพยายามครั้งใหม่ ที่มุ่งสร้างมาตรฐานการอยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงานให้เกิดขึ้นจริงอย่างยั่งยืน เพื่อพัฒนาสู่อัตลักษณ์ที่สะท้อนความเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม "การปรับโฉมกลุ่มบ้านแบรนด์แลนซีโอ (Lanceo) ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ที่ตอบรับวิถีการใช้ชีวิตของคนไทยที่เปลี่ยนไป เพราะบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ต้องเติมเต็มความต้องการทั้งการอยู่อาศัย และรองรับการใช้ชีวิตในรูปแบบ Work From Home / Study Online หรือแม้กระทั่งปรับมาเป็นห้องผู้สูงอายุรับสังคมสูงวัยในอนาคตได้อีกด้วย ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานี้รวมอยู่ในบ้านแบรนด์แลนซีโอโฉมใหม่ของเรา" นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวถึงพัฒนาการด้านการออกแบบล่าสุดของบริษัทฯ ในกลุ่มบ้านแบรนด์แลนซีโอ
ทั้งนี้ไม่ว่าระยะเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน นอกจากความโดดเด่นด้านการออกแบบที่จะมีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อของผู้บริโภคแล้ว 'ทำเล' ก็นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคด้วยเช่นกัน "หากผู้บริโภคเสิร์ชหาโครงการต่างๆ ของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จะพบว่าโครงการของเราทั้งหมด ตั้งอยู่ในย่านชุมชนที่มีศักยภาพและพร้อมจะเติบโตจากปัจจุบันสู่อนาคต เพราะเราเชื่อว่าหากพัฒนาโครงการด้วยแนวคิดการออกแบบที่ดีมากเท่าไหร่ แต่โครงการดังกล่าวกลับไปตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่มีศักยภาพ มูลค่าโครงการในอนาคตก็จะลดลงตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้น บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องทำเล โดยโครงการนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายการคมนาคมที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง การขยายถนนเชื่อมต่อเส้นทางหลัก รวมถึงการพัฒนาโครงการระดับเมกกะโปรเจคทั้งของภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาสู่ย่านสำคัญของที่อยู่อาศัยคุณภาพที่ใกล้กรุงเทพฯ โดยฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ได้ถูกวางยุทธศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนสู่เมืองอัจฉริยะต้นแบบอีกด้วย" นายชูรัชฏ์ กล่าวถึงความสำคัญของทำเลที่มีผลโดยตรงต่อมูลค่าโครงการในอนาคต
โดยโครงการลลิลทาวน์ ชัยพฤกษ์-ไทรน้อย ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 52 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์แลนซีโอ คริป รวม 114 ยูนิต และ โครงการทาวน์โฮมแบรนด์ ไลโอ รวม 344 ยูนิต ซึ่งถือเป็นโครงการที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ใกล้ทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร เชื่อมต่อ ถนนชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ ,ถนนราชพฤกษ์-สาทร ,ถนนกาญจนาภิเษกฯ และถนนรัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน หรือแม้กระทั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีชมพู ที่เข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังใกล้ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต สถานพยาบาลอย่างโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระในวันพักผ่อน ภายในโครงการมีฟิตเนสวิวสวน และสวนส่วนกลางสีเขียวขนาดใหญ่ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เรียกว่าสะดวกครบจบในที่เดียว โดยโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์แลนซีโอ คริป ชัยพฤกษ์-ไทรน้อย ที่มาในคอนเซ็ปต์ "Perfection of living" มีพื้นที่ใช้สอย 3 ห้องนอน พร้อมระเบียงชมวิว ,1 ห้องอเนกประสงค์ ,3 ห้องน้ำ ,1 ห้องรับแขก ส่วนเตรียมอาหารโดยครัวแยกเป็นสัดส่วน พร้อมที่จอดรถ 2 คัน ซึ่งมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4-7 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮมแบรนด์ ไลโอ ชัยพฤกษ์ - ไทรน้อย มีพื้นที่ใช้สอย 3 ห้องนอน ,1 ห้องอเนกประสงค์ ,2 ห้องน้ำ ,1 ห้องรับแขก พร้อมส่วนเตรียมอาหาร และจอดรถ 2 คัน มาพร้อม Flexible Function สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ หน้ากว้าง สามารถใช้สอยได้คุ้มค่าทุกตารางเมตร ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Happiness of Living" ความสุขที่ลงตัวกับทุกความต้องการของการใช้ชีวิต ซึ่งมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2 ล้านบาท
"ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มีการพัฒนาและคิดค้นในส่วนงานด้านการออกแบบให้ตรงใจผู้บริโภคอยู่เสมอ โดยคำนึงถึงการอยู่อาศัยที่สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน เพราะถือว่าเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้ เราต้องการสร้างวิธีคิดและกำหนดมาตรฐานใหม่ในการพัฒนาบ้านที่สามารถใช้พื้นที่ทั้งภายในและภายนอกได้จริง โดยใช้ประโยชน์จากการออกแบบมาเป็นตัวสร้างมูลค่าโครงการและต่อยอดความสุขในการอยู่อาศัยของลูกค้าทุกคนของเรา" ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าธุรกิจให้เป็นไปตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้ โดยตั้งเป้าพัฒนาโครงการบ้านป้อนสู่ตลาดในปีนี้ให้ได้ 10-12 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวสรุป
ที่มา: โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น