นายรัฐชัย ภิชยภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงเดินหน้าสร้างความเติบโต ทั้งด้านรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง หลังจากภาพรวมของเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ซึ่งส่งผลบวกต่อการลงทุนของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยบริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายรายได้จากงานรับเหมาในปี 2565 เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 30% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้รับงานด้านวิศวกรรมงานก่อสร้างและการวางระบบไฟฟ้าเครื่องกลต่อเนื่อง ส่งผลให้ล่าสุดบริษัทฯมีมูลค่างานในมือ (Backlog) รวมกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งมูลค่างานดังกล่าวนี้จะทยอยรับรู้และส่งมอบงานจนถึงปี 2566 โดยงานโครงการที่เป็นไฮไลท์ของ EMC คือ งานก่อสร้างอาคารเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกทั้ง ยังมีงานก่อสร้างโรงพยาบาล และงานก่อสร้างโรงงาน Semiconductor ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการส่งมอบงาน โดยโครงการดังกล่าวเป็นของกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังคงเดินหน้าเร่งเจรจาจับมือกับพันธมิตรที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่จากต่างประเทศ เพื่อร่วมลงทุนและทำงานในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC สำหรับโครงการในเขตพื้นที่ EEC ที่ยังมีงานก่อสร้างอีกจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้างที่เกี่ยวเนื่องกับรถไฟความเร็วสูง, ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3, ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 และสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งจะมีเม็ดเงินลงทุนในปี 2565 ประมาณ 1 แสนล้านบาท และคาดว่าในปี 2566 จะมีเม็ดการลงทุนอีกประมาณ 2 แสนล้านบาท จากภาพรวมการลงทุนทั้งหมดกว่า 6 แสนล้านบาท โดยEMC คาดหวังว่าจะสามารถเข้ารับงานโครงการในเขตพื้นที่ EEC ได้ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจุบันบริษัทฯยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่ และรอการประกาศผลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งงานในภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท อาทิ งานก่อสร้างโรงงาน Semiconductor ในเฟสใหม่ มูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับงานดังกล่าวเพิ่มในปีนี้ อีกทั้ง ยังมีงานก่อสร้างโครงการมิกซ์ยูส (Mixed-Use) ซึ่งเป็น โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างขึ้นเพื่อการอยู่อาศัย และพาณิชกรรมบนพื้นที่เดียวกัน ภายในพื้นที่โครงการ ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม โรงแรม อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า พื้นที่ Retail ให้เช่า เป็นต้น บนถนนพระราม 9 มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท, งานก่อสร้างโรงพยาบาล ขนาด 150-300 เตียง ในเครือโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง มูลค่าโครงการประมาณ 300 ล้านบาท,งานก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยสูง 19 ชั้น สำหรับบุคลากรทางการแพทย์มูลค่าโครงการประมาณ 550 ล้านบาท และงานก่อสร้างอาคารคลังเก็บสินค้าพื้นที่ขนาด 40,000 ตารางเมตร ของกลุ่มบริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่ในประเทศ มูลค่าโครงการประมาณ 550 ล้านบาท โครงการก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยสำหรับราชการ 12 ชั้น 5 อาคารพร้อมที่จอดรถ พื้นที่ก่อสร้างรวม 110,000 ตารางเมตร มูลค่าประมาณ 2,265 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งหากคว้างานประมูลดังกล่าวมาได้ จะส่งผลให้มูลค่า Backlog ในมือจากที่มีอยู่ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะขยายกิจการไปยังธุรกิจ อุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ โดยได้พิจารณาแนวทางการประกอบธุรกิจ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น รวมถึงได้ MOU ร่วมกับกลุ่มบริษัทการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำแห่งหนึ่ง (Real Estate Investment Firm) เพื่อศึกษาการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ร่วมกันในเชิงลึก ซึ่งหากประสบความสำเร็จจะเป็นอีกตัวต่อยอดธุรกิจ และเพิ่มรายได้จากช่องทางใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ดังนั้นหลังจากนี้ EMC จะเดินเกมรุกทางธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและการเติบโตของบริษัทฯให้มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์