นายธนวรรธ ดำเนินทอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เมนูที่เป็นเอกลักษณ์อันดับหนึ่งมาตั้งแต่ถือกำเนิดเบอร์เกอร์คิงในประเทศไทยและครองใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปีคือ 'วอปเปอร์' (Whopper) โดยในปี 2565 นี้ เบอร์เกอร์คิงได้ปรับโฉมวัตถุดิบ โดยทุกเมนูรังสรรจากขนมปังโรยงาขาวด้านบนอบสดใหม่ เนื้อนุ่มฟู สูตรลับพิเศษของเบอร์เกอร์คิง เนื้อนำเข้าจากออสเตรเลีย 100% คุณภาพชั้นเยี่ยมคัดสรรมาเป็นอย่างดีที่นำไปย่างบนเปลวไฟเทคนิคพิเศษเฉพาะจึงทำให้เนื้อ มีความชุ่มฉ่ำ และกลิ่นหอมเป็นพิเศษผักสดใหม่ สะอาด ปลอดสารเคมี อาทิ ผักกาดแก้ว มะเขือเทศ หอมใหญ่ แตงกวาดอง วัตถุดิบทุกชนิดปลอดภัยไม่มีสารกันบูด ไม่มีสีผสมอาหารและสารตกแต่งกลิ่น รวมถึงไม่ใส่ผงชูรส เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรสสัมผัสและรสชาติของเรียลวอปเปอร์อย่างแท้จริง"
นายธนวรรธ กล่าวเพิ่มเติมว่า เบอร์เกอร์คิงยังได้ปรับโฉมร้านในรูปแบบใหม่โดยปรับลุคการดีไซน์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น และเพิ่มสีสันความสนุกสนาน เพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้ความรู้สึกถึงความผ่อนคลายและมีชีวิตชีวาเมื่อเข้ามาใช้บริการ ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค ทุกเพศทุกวัย พร้อมการให้บริการจากพนักงานที่ได้รับการฝึกฝนตามมาตรฐานของเบอร์เกอร์คิงทั่วโลก เริ่มสาขาแรกที่ปั๊ม คาลเท็กซ์ งามวงศ์วาน ทั้งนี้ปัจจุบันร้านเบอร์เกอร์คิงมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 121 สาขาทั่วประเทศ แบ่งออกเป็นพื้นที่ในโซนกรุงเทพฯ คิดเป็น 60% และต่างจังหวัดคิดเป็น 40% โดยในปีนี้วางแผนขยายสาขาเพิ่มอีกจำนวน 10 สาขา เพื่อให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ รองรับผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น โดยเดือนกรกฎาคมเตรียมเปิดร้านเบอร์เกอร์คิงสาขาแรกของขอนแก่น ในขณะที่ด้านยอดขายการเติบโตของเบอร์เกอร์คิงที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเทียบเท่าได้กับปี 2562 ก่อนช่วงการเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยแบ่งเป็นสัดส่วนการเติบโต ช่องทางเดลิเวอรีมีการเติบโตเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับ 1
"จากการยึดมั่นในมาตรฐานมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพและการบริการของเบอร์เกอร์คิง โดยจากนี้เตรียมเดินหน้ากลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง เพื่อให้เบอร์เกอร์คิงสามารถเข้าถึงผู้บริโภคคนไทยได้ในวงกว้างมากขึ้น ผ่านการนำเสนอภาพลักษณ์และการบริการด้วยเมนูระดับคุณภาพ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการในราคาที่เข้าถึงได้ ตลอดจนการส่งเสริม โปรโมชันสุดคุ้มอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแบรนด์อาหารชั้นนำที่ตอบโจทย์เคียงข้างผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย"
นอกจากนี้ เบอร์เกอร์คิง ยังพร้อมให้ผู้บริโภคทุกคนได้ลิ้มลองอีกหลากหลายเมนูวอปเปอร์ พร้อมจัดโปรโมชันพิเศษสำหรับเมนู ชุดสุดคุ้ม วอปเปอร์ จากราคาเต็ม 259 บาท เหลือเพียง 199 บาท รวมถึงยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมายให้ลูกค้าได้เลือกรับประทานตามความต้องการ อาทิ อาหารเช้า ครัวซองวิช โจ๊กหมู หรือเมนูข้าว ได้แก่ ข้าวไก่ทอดจิ้มแจ่ว ข้าวไก่สไปซี่เทริยากิ รวมไปถึงเมนูยอดฮิตของคนไทย ไก่ทอดหอมเจียวชิคเก้นคิง ไก่ทอดซอสเผ็ดสไตล์เกาหลี และเมนูเอาใจสายคนรักสุขภาพอย่างเบอร์เกอร์แพลนต์เบส ตลอดจนเมนูของหวาน และเครื่องดื่มอีกมากมาย โดยลูกค้าสามารถเลือกนั่งรับประทานที่ร้าน หรือซื้อกลับบ้าน รวมถึงสั่งผ่านแอปพลิเคชัน Burger King Thailand และเว็บไซต์ นายธนวรรธ กล่าวสรุป
สำหรับผู้ที่สนใจลิ้มลองรสชาติเมนู 'วอปเปอร์' เบอร์เกอร์ต้นตำรับความเรียล และวัตถุดิบคุณภาพ รวมถึงเมนูอื่น ๆ สามารถมาได้ที่ร้านเบอร์เกอร์คิง ทุกสาขาทั่วประเทศไทย หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.burgerking.co.th และ Facebook: BurgerKingThailand
ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์