"พระอาทิตย์ขึ้น คือจุดเริ่มต้นของวันใหม่ ทำให้ผู้คนรู้สึกกระปรี้กระเปร่า" นี่คือโพสต์แรกของนายลี พร้อมกับเสริมว่าเขาจะแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับงานและชีวิตของเขาภายใต้ภารกิจใหม่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเว่ยป๋อที่เปรียบเหมือนทวิตเตอร์ของจีน
"มาร่วมมือกันเปิดศักราชใหม่ของฮ่องกงไปด้วยกัน" เขาระบุ
นายลีเพิ่งทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดคนที่ 6 ของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง โดยมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ดูแลพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ในช่วงเช้าวันศุกร์
ผู้รักชาติบริหารฮ่องกง
อดีตหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงของฮ่องกงวัย 64 ปี ได้รับเลือกให้เป็นผู้บริหารสูงสุดคนใหม่ของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ภายใต้ระบบการเลือกตั้งที่ปรับปรุงใหม่ตามหลักการ "ผู้รักชาติบริหารฮ่องกง"
นายลีกำกับดูแลการนำกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงแห่งชาติมาใช้ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 หลังจากศูนย์กลางการเงินโลกแห่งนี้เผชิญความไม่สงบทางสังคมที่ยืดเยื้อในปี 2562 โดยมีการก่อความรุนแรงตั้งแต่การขว้างระเบิดขวด การทำลายร้านค้า ไปจนถึงการโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ
การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวช่วยปลดปล่อยชาวฮ่องกงจากความหวาดกลัวความรุนแรง และกลับมามีชีวิตที่สงบสุข โดยฮ่องกงสามารถฟื้นคืนความสงบเรียบร้อยและความคึกคักทางเศรษฐกิจกลับมาอีกครั้ง
นายสี จิ้นผิง กล่าวสุนทรพจน์ถึงความก้าวหน้าดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ พร้อมกับเน้นย้ำอีกครั้งถึงการดำเนินการตามหลักการ "ผู้รักชาติบริหารฮ่องกง"
เขากล่าวว่า การรักษาอำนาจในการบริหารฮ่องกงให้อยู่ในมือของผู้รักชาติเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงในระยะยาวของฮ่องกง และเสริมว่า "หลักการนี้ห้ามย่อหย่อนโดยเด็ดขาด"
เขากล่าวว่า นับตั้งแต่ฮ่องกงกลับคืนสู่มาตุภูมิ ฮ่องกงก็ได้สัมผัสกับระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยได้รับการดูแลจากรัฐบาลกลางและมีความเป็นอิสระในระดับสูง
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า ระบอบประชาธิปไตยของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" และสถานะตามรัฐธรรมนูญของฮ่องกงนั้น เอื้อต่อการปกป้องสิทธิตามหลักประชาธิปไตยของชาวฮ่องกง รวมถึงรักษาความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพของฮ่องกง
บทบาทที่ไม่อาจทดแทนได้ในการสร้างปาฏิหาริย์ทางเศรษฐกิจของจีน
ประธานาธิบดีจีนได้กล่าวยกย่องบทบาทที่ไม่อาจทดแทนได้ของฮ่องกงที่มีต่อปาฏิหาริย์ของการพัฒนาเศรษฐกิจจีนอย่างมั่นคงและรวดเร็วในระยะยาว นับตั้งแต่กลับคืนสู่มาตุภูมิในปี 2540
เขากล่าวว่า ฮ่องกงเป็นผู้นำเทรนด์ในการปฏิรูปและเปิดกว้าง โดยทำหน้าที่เป็นสะพานและหน้าต่างสำคัญที่เชื่อมจีนแผ่นดินใหญ่กับส่วนอื่น ๆ ของโลก
ฮ่องกงมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการพัฒนาโดยรวมของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ และยังคงรักษาจุดแข็งของความเป็นอิสระและเปิดกว้างในระดับสูง และสอดคล้องกับกฎระเบียบระหว่างประเทศ
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า ฮ่องกงสามารถฝ่าฟันความท้าทายทุกรูปแบบและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง โดยไม่มีความท้าทายใดที่สามารถหยุดยั้งการก้าวไปข้างหน้าของฮ่องกงได้ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตการเงินระหว่างประเทศหรือการแพร่ระบาดของโควิด-19
ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา ฮ่องกงมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งยังสามารถรักษาสถานะที่มั่นคงในฐานะศูนย์กลางทางการเงิน การค้า และการขนส่งระหว่างประเทศ ขณะที่ภาคเทคโนโลยีที่ทันสมัยก็เติบโตอย่างรวดเร็ว และมีการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระดับโลก
ยิ่งไปกว่านั้น กฎหมายที่มีอยู่ก่อนแล้วของฮ่องกงยังได้รับการอนุรักษ์และพัฒนา พร้อมกับความก้าวหน้าทั่วทุกด้านในแง่มุมต่าง ๆ ของสังคม ซึ่งความมีชีวิตชีวาของมหานครแห่งนี้ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับทั่วโลก
https://news.cgtn.com/news/2022-07-01/Hong-Kong-to-start-a-new-chapter-after-25-years-of-prosperity-1bjpwWDg5YQ/index.html