สุดปัง! เปิด 3 หลักสูตร ดับเบิ้ลดีกรีลาดกระบัง เรียนครั้งเดียวคว้า 2 ปริญญา

จันทร์ ๐๔ กรกฎาคม ๒๐๒๒ ๑๓:๔๓
การเปิด "หลักสูตรดับเบิ้ลดีกรี" (Double Degree) ในสถาบันการศึกษาของไทยมีจำนวนมากขึ้น เพื่อตอบโจท์ผู้เรียนที่ต้องการทักษะอย่างรอบด้าน ซึ่งแน่นอนว่าหลักสูตรดับเบิ้ลดีกรีจะมีรายวิชาเพิ่มเติมมากกว่าหลักสูตรปกติ แต่เมื่อเทียบกับเวลาเรียนเพียง 4-5 ปี แล้วก็ได้ถึง 2 ใบปริญญาเลยทีเดียว อีกทั้งหลักสูตรดับเบิ้ลดีกรีเหล่านี้ยังตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานที่ต้องการบัณฑิตที่มีความสามารถที่หลากหลายแขนง และมีความรู้ที่รอบด้านในคนเดียว
สุดปัง! เปิด 3 หลักสูตร ดับเบิ้ลดีกรีลาดกระบัง เรียนครั้งเดียวคว้า 2 ปริญญา

รองศาสตราจารย์ ดร.อนุวัฒน์ จางวนิชเลิศ รักษาการแทนอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้เปิดเผยว่า ความร่วมมือในการจัดตั้งหลักสูตร 2 ปริญญานั้น เป็นสิ่งที่ สจล. มุ่งมั่น และตั้งใจในการพัฒนาหลักสูตรอย่างมาก เพื่อให้เกิดเป็นหลักสูตรที่ตอบโจทย์กับตลาดแรงงานให้ได้มากที่สุด ในขณะเดียวกันหลักสูตรทั้งหมดได้ถูกออกแบบโครงสร้างหลักสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชาอย่างแท้จริง ทำให้มั่นใจได้ว่าบัณฑิตที่จบการศึกษาจากหลักสูตรดับเบิ้ลดีกรีเป็นบัณฑิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ พร้อมที่จะเข้าไปทำงานเพื่อพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

'สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง' (สจล.) ได้พัฒนาหลักสูตรดับเบิ้ลดีกรีเพื่อให้ผู้เรียนสามารถขมวดรวมสิ่งที่ได้เรียน มาวิเคราะห์เพื่อต่อยอดเป็นองค์ความรู้ที่ปรับใช้ได้จริงในโลกการทำงานแห่งศตวรรษที่ 21 ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นประตูในการก้าวไปสู่โลกแห่งการทำงานที่เปิดกว้างขึ้น โดยมี 3 หลักสูตรที่น่าสนใจดังนี้

  • หลักสูตรฟิสิกส์ไอโอทีดับเบิ้ลดีกรี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์ ปั้น นักฟิสิกส์ไอโอที พัฒนาเอไอก็ได้ วิเคราะห์บิ๊กดาต้าก็ดี จบครบในคนเดียว

หลักสูตรฟิสิกส์ไอโอทีนี้เป็นหลักสูตรจากความร่วมมือของ สาขาวิชาวิศวกรรมระบบไอโอทีและสารสนเทศ (IoT System and Information Engineering) คณะวิศวกรรมศาสตร์ และสาขาวิชาฟิสิกส์อุตสาหกรรม (Industrial Physics) คณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นหลักสูตร 2 ปริญญาตรี ที่เรียนเพียง 4 ปีโดยวุฒิที่จะได้รับหลังเรียนจบ คือ วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมระบบไอโอทีและสารสนเทศ และวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาฟิสิกส์อุตสาหกรรม สำหรับการศึกษาในชั้นปีแรก จะศึกษาในสาขาวิชาที่ตนได้สมัครเข้าไป และเริ่มเรียนข้ามสาขาตั้งแต่ชั้นปีที่ 2 เป็นต้นไป โดยนำศาสตร์ด้านฟิสิกส์อุตสาหกรรม วิศวกรรมศาสตร์ และระบบไอโอทีสารสนเทศมาบูรณาการร่วมกัน โดยเน้นความเข้าใจในด้านฟิสิกส์ทั้งพื้นฐาน และประยุกต์ รวมถึงความรู้ทางวิศวกรรมและคณิตศาสตร์เพื่อการวิเคราะห์ และบูรณาการความรู้เข้ากับเทคโนโลยีระบบไอโอที เพื่อพัฒนาทั้งในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ บิ๊กเดต้า รวมถึงการเขียนโปรแกรมและการพัฒนาแอปพลิเคชัน ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสร้างนักฟิสิกส์ไอโอทีที่มีทักษะหลากหลาย พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในยุค Disruption และสามารถบูรณาการองค์ความรู้ที่จะสร้างนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยต่อไปในอนาคต ตอบโจทย์อุตสาหกรรมในยุค Thailand 4.0

  • หลักสูตรสถาปัตย์-วิศวะอินเตอร์ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ ทั้งออกแบบ ทั้งก่อสร้างทำได้ในคนเดียว

หลักสูตรสถาปัตย์-วิศวะอินเตอร์ เป็นความร่วมมือของภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ ภายใต้การเรียนการสอนในหลักสูตรนานาชาติ โดยวุฒิที่จะได้รับหลังเรียนจบ คือ วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโยธา และวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาสถาปัตยกรรม การร่วมมือกันในครั้งนี้ สิ่งสำคัญ คือการสร้างทักษะการเรียนรู้เพื่ออนาคต โดยตั้งเป้าให้คนใน Generation ใหม่ ไม่ได้มีเพียงทักษะวิชาชีพ แต่ยังมีความคิดสร้างสรรค์ โดยหลักสูตรนี้ไม่ได้สร้างแค่วิศวกร หรือสถาปนิก แต่ยังสร้างนวัตกร เพื่อสร้างให้เกิดการชี้นำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า 2 วิชาชีพทำงานร่วมกันอยู่แล้ว แต่ สจล. สามารถทำให้ 2 สาขาอาชีพนี้อยู่ด้วยกันได้ในคนเดียว ถือเป็นการพัฒนาหลักสูตรเพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างรวดเร็ว เพื่อให้บัณฑิตสามารถตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงทีไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม ทั้งนี้ นักศึกษาจากหลักสูตรดังกล่าวยังมีโอกาสได้ฝึกงานเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ในทั้ง 2 ศาสตร์ที่ University of Newcastle ประเทศออสเตรเลียอีกด้วย

  • หลักสูตร Global Leader Development Program จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะบริหารธุรกิจ ฉีกกฎนักบริหารแบบเดิม ปั้นวิศวกรสายพันธุ์ CEO เรียน 5 ปี ได้วุฒิตรีควบโท

หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป คณะวิศวกรรมศาสตร์จึงเปิดโอกาสให้นักศึกษาในคณะทั้งหลักสูตรปกติ และหลักสูตรนานาชาติ เข้าร่วมหลักสูตร "Global Leader Development Program" เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสนใจด้านธุรกิจได้ศึกษาต่อยอดเพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายเพื่อผลิตวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตที่เป็นได้มากกว่าวิศวกร แต่ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ เพื่อสร้างโอกาสในการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจในอนาคต โดยวุฒิที่ได้รับคือ วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต และบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จากคณะบริหารธุรกิจ ทั้งนี้ หลักสูตรดังกล่าวใช้เวลาเรียนเพียงแค่ 5 ปี โดยจะเริ่มเรียนรายวิชาทางด้านการบริหารธุรกิจตั้งแต่ชั้นปีที่ 3 เป็นต้นไป

โดยผู้ที่สนใจเข้าศึกษาสามารถศึกษาข้อมูลแต่ละหลักสูตรเพิ่มเติมได้ที่ สำนักทะเบียนและประมวลผล สจล. โทรศัพท์ 02-329-8163 หรือ 02-329-8203 เว็บไซต์ https://www.reg.kmitl.ac.th/curriculum/ หรือ https://www.facebook.com/reg.kmitl

ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์

สุดปัง! เปิด 3 หลักสูตร ดับเบิ้ลดีกรีลาดกระบัง เรียนครั้งเดียวคว้า 2 ปริญญา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version