อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศเปิดตัว Energy Expert ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นด้านความยั่งยืน ช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกทำการวัดปริมาณ วิเคราะห์ และบริหารจัดการการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการทำกิจกรรมทางธุรกิจและจากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของตน แพลตฟอร์มที่เป็น software-as-a-service นี้ยังนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน เพื่อช่วยกระบวนการทำให้การทำธุรกิจบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนเกิดได้เร็วขึ้น
ความคิดริเริ่มนี้เป็นไปในแนวทางเดียวกับคำมั่นสัญญาว่าด้วยความเป็นกลางทางคาร์บอนของอาลีบาบาที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา บริษัทฯ เป็นผู้บุกเบิกแนวคิด "Scope 3 +" และได้ให้คำมั่นที่จะแบ่งปันเทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงานกับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ ผ่านการรวมพลังแห่งความพยายามต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้มากที่สุด
นายเฉิน ลี่จวน ผู้จัดการทั่วไปด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชัน อาลีบาบา คลาวด์ กล่าวว่า "Energy Expert ออกแบบมาเพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ บรรลุเป้าหมายด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน ด้วยการใช้เทคโนโลยีและโซลูชันที่ทันสมัยทรงประสิทธิภาพ เราหวังว่าลูกค้าทั่วโลกของเราจะได้ประโยชน์จากนวัตกรรมที่ได้รับการพิสูจน์แล้วนี้ ซึ่งวิธีการดำเนินการที่ชาญฉลาด และแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนต่าง ๆ ที่โซลูชันนี้มีให้จะช่วยให้ลูกค้าของเราบรรลุเป้าหมาย net zero"
โซลูชัน Energy Expert ช่วยให้ลูกค้าจัดทำบัญชีก๊าซคาร์บอน (carbon accounting) และกระบวนการทำรายงานได้อย่างอัตโนมัติทั้งในส่วนขององค์กร และผลิตภัณฑ์ พร้อมให้สถิติต่าง ๆ ที่กระทบต่อความยั่งยืนแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลประกอบการพิจารณา นอกจากนี้ยังช่วยให้ลูกค้าระบุแหล่งที่มาของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกิจกรรมทางธุรกิจในแต่ละวัน รวมถึงที่เกิดจากไลฟ์ไซเคิลทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยอิงตามมาตรฐาน PAS 2060 และ ISO 14064 เกี่ยวกับความเป็นกลางทางคาร์บอน ทั้งนี้ลูกค้าสามารถวัดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ผ่านโมเดลการคำนวณที่เตรียมไว้ล่วงหน้า โดยใช้ประโยชน์จากชุดข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่ใช้กันเป็นสาธารณะ โซลูชันนี้ยังช่วยให้ลูกค้ารับรู้และมองเห็นรูปแบบของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการดำเนินงานของตนได้แบบเรียลไทม์ และแจ้งความก้าวหน้าของประสิทธิภาพด้านความยั่งยืนขององค์กรผ่านการแสดงภาพบนแดชบอร์ดและรายงานออนไลน์ต่าง ๆ
นอกจากนี้ โซลูชันนี้ยังมอบการวิเคราะห์ที่ล้ำสมัยต่าง ๆ เกี่ยวกับประสิทธิภาพของการใช้พลังงานและคาดการณ์การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่เรียนรู้โดยอัตโนมัติผ่านการเลียนแบบการทำงานของระบบโครงข่ายประสาทในสมองมนุษย์ (deep learning-based AI) ต่าง ๆ ที่โฮสต์อยู่บนอาลีบาบา คลาวด์ Energy Expert ยังนำเสนอแผนการเพิ่มประสิทธิภาพที่นำไปใช้งานได้จริง เพื่อช่วยลูกค้าลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในภาพรวมให้ได้มากที่สุด แผนนี้จะมีคำแนะนำที่สร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจรวมถึงเรื่องของการนำพลังงานสะอาดมาใช้มากขึ้น การลดการใช้ไฟฟ้าที่มากเกินไปในช่วงที่มีความต้องการใช้สูง และการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับซัพพลายเชนตั้งแต่การจัดหาวัสดุหรือวัตถุดิบไปจนถึงการจัดส่งสินค้าและผลิตภัณฑ์
Energy Expert ทำงานกับองค์กรต่าง ๆ ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก เช่น T?V Rheinland เพื่อจัดทำบบัญชีและให้การรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ออนไลน์ที่เชื่อถือได้ เป็นการช่วยลูกค้าให้ตรวจสอบและสื่อสารความก้าวหน้าในการประหยัดพลังงานของลูกค้าไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดได้อย่างเรียบง่าย
มีการนำนวัตกรรมนี้ไปใช้ในประเทศจีนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ และปัจจุบันได้ให้บริการกับบริษัทมากกว่า 2,000 แห่งในประเทศจีน ช่วยประหยัดพลังงานมากกว่า 2 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อวัน หรือเป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 400,000 ตันจากช่วงเวลาเดียวกัน
Energy Expert มีบทบาทสำคัญกับมาตรการด้านความยั่งยืนที่ใช้ที่สำนักงานใหญ่ XiXi ของอาลีบาบา ณ เมืองหางโจว แนวคิดการประหยัดพลังงานที่โซลูชันนี้นำเสนอ เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศที่ชาญฉลาด และการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาซึ่งผลิตไฟฟ้าได้ 1.2 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานที่สำนักงานใหญ่ของอาลีบาบา ลดการใช้พลังงานลง 30% ในช่วงที่ไม่มีความต้องการใช้สูง และประหยัดพลังงานจากการใช้ระบบปรับอากาศในฤดูร้อนลงได้ 17%
ที่มา: เอฟเอคิว