ในช่วงการประกอบพิธีฮัจญ์จะมีประชาชนกว่า 1 ล้านคนที่ได้รับอนุญาตเดินทางไปร่วมแสวงบุญ ซึ่งปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่ชาวต่างชาติจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าร่วมพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2562-2563 ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผู้แสวงบุญทุกคนต้องแสดงหลักฐานสถานะการฉีดวัคซีน และผลการตรวจโควิดแบบ PCR เป็นลบก่อนออกเดินทางสู่ประเทศซาอุดีอาระเบียไม่เกิน 72 ชั่วโมง
นพ. จามร เงินชารี ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส กล่าวว่า "แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะดูเหมือนว่าผ่อนคลายลงแล้ว แต่ช่วงเวลาตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน ยังมีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในซาอุดิอาระเบีย ดังนั้น ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วก็ควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลต่อไป เพื่อป้องกันตนเองให้ดีที่สุดจากการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ผู้เดินทางทุกคนยังต้องรักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย และรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัดด้วยการล้างมือบ่อย ๆ สิ่งสำคัญคือ ต้องปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขในซาอุดิอาระเบีย และระมัดระวังโรคอื่น ๆ ที่แพร่หลายในภูมิภาคนี้ รวมถึงโรคเมอร์ส (Middle East Respiratory Syndrome หรือ MERS-CoV) ที่สามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาสุขอนามัย และดูแลสุขภาพเพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อม เช่น อากาศที่ร้อนจัด ควรเลือกรับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุก และเครื่องดื่มที่ปลอดภัย ดื่มน้ำจากน้ำบรรจุขวดและนมพาสเจอร์ไรส์ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอและรักษาอุณหภูมิของร่างกายไม่ให้สูงเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงอาการป่วยที่เกิดจากความร้อน"
สราวุธ ธัมจุล ผู้จัดการด้านความมั่นคงปลอดภัย บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กล่าวเสริมว่า "ผู้แสวงบุญที่ไปร่วมประกอบพิธีฮัจญ์ควรปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด และตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับการอนุมัติอย่างถูกต้องก่อนออกเดินทาง ใช้บริการของผู้จัดงานแสวงบุญที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาล มีความน่าเชื่อถือ และมียานพาหนะที่เหมาะสมให้บริการ ผู้เดินทางมาเยือนซาอุดิอาระเบียที่ไม่ได้เข้าร่วมพิธีฮัจญ์ ควรคำนึงถึงความละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรมและปฏิบัติตามข้อจำกัดในการเดินทาง รวมถึงการจำกัดการเข้าใช้สนามบินบางแห่ง"
คำแนะนำจาก International SOS สำหรับการร่วมพิธีฮัจญ์ในช่วงโควิด-19:
- สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และรักษาระยะห่างอย่างน้อยสองเมตร
- การปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการล้างมือเป็นประจำ และทิ้งหน้ากากและถุงมือที่ใช้แล้วทันทีอย่างปลอดภัย
- ปฏิบัติตามข้อกำหนดต่าง ๆ ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด
- ดูแลปัญหาด้านสุขภาพให้คงที่ หากจำเป็นต้องใช้ยา ควรเตรียมไปให้เพียงพอสำหรับการเดินทาง และเผื่อไว้ในกรณีที่อาจเกิดความล่าช้า
- บันทึกรายชื่อผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉินบนโทรศัพท์มือถือ และชาร์จโทรศัพท์ให้พร้อม (ตำรวจ รถพยาบาล สถานทูต และผู้ติดต่อในพื้นที่)
- ติดตามสถานการณ์ ข่าวสาร และคำแนะนำล่าสุดอยู่เสมอ
- เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับความละเอียดอ่อนในด้านศาสนาและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโซเชียลมีเดีย และเคารพกฎหมาย ศาสนา และวัฒนธรรมท้องถิ่นตลอดการพำนัก
- เตรียมพร้อมสำหรับการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้น ในจุดที่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมรวมถึงการจราจรและความแออัดที่เพิ่มขึ้น
- หากเข้าร่วมการแสวงบุญ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้จัดพิธีฮัจญ์ การกำหนดเวลาพิธีฮัจญ์จะมีหลากหลายเวลาตามแต่ผู้จัด ซึ่งจัดโดยทางการของซาอุดิอาระเบียเพื่อลดความแออัด ระหว่างที่ร่วมพิธีให้ระมัดระวังทรัพย์สินอยู่เสมอเมื่อเดินเข้าไปท่ามกลางฝูงชน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อไม่ให้เกิดโรคลมแดดหรือภาวะฉุกเฉินจากความร้อน เลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ปลอดภัย เช่น น้ำดื่มบรรจุขวด ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด ดูว่าเนื้อสัตว์ปรุงสุกอย่างทั่วถึงและหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูง
- คอยสังเกตผู้อื่นที่อาจมีอาการป่วย และเน้นย้ำว่าต้องรักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์โดยตรงรวมถึงอูฐ เพราะอาจเกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงที่มีสาเหตุมาจากโคโรนาไวรัสสายพันธุ์อื่นหรือโรคเมอร์ส อาจพบได้ในอูฐ
ที่มา: โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์