นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (KTX) กล่าวว่า ปัจจัยลบกดดันตลาดหุ้นไทยใน 3Q22 เป็นเรื่องความเสี่ยงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสำคัญ อันเป็นผลจากการดำเนินนโยบายเข้มงวดของธนาคารกลาง เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งจะตามมาด้วยการปรับลดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจ และกำไรของบริษัทจดทะเบียนทั้งในและต่างประเทศ สำหรับปัจจัยในประเทศ เราประเมินโอกาสมากขึ้นที่ กนง. จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ในอัตรา 0.25% สู่ระดับ 0.75% เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นต่อเนื่องของดัชนีราคาผู้บริโภค และรักษาส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของไทยและสหรัฐฯ (Real Rate Spread) ไม่ให้ต่ำกว่า 0% นอกจากนี้ การกลับมาเร่งตัวของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
สำหรับปัจจัยเสี่ยงเชิงบวก ประกอบด้วย การส่งสัญญาณลดความเข้มงวดของการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ หากมีข้อบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว รวมไปถึงการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการปิดเมืองสำคัญตามนโยบาย Zero Covid-19
ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ Selective Buy หุ้นกลุ่มธนาคาร รับประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น สำหรับการลงทุนระยะ 12 เดือนข้างหน้า KTX ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นที่อิงการบริโภคในประเทศ ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการบริโภคที่ฟื้นตัวหลังคลายมาตรการปิดเมือง และรับกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยหุ้นเด่นประจำ 3Q22 ได้แก่ BBL KBANK KKP BEC BAFS ORI LH ASIAN SAPPE SABINA
ที่มา: หลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง